ส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์ต้องใช้อะไรบ้าง ปลอดภัยจริงไหม
ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการส่งมอเตอร์ไซค์ทางไปรษณีย์ไทยเป็นจำนวนมาก โดยบริการขนส่งของขนาดใหญ่ หรือโลจิสโพสต์นี้ ให้คุณส่งของได้หนักสูงสุดถึง 200 กิโลกรัม นอกจากการขนส่งมอไซค์ข้ามจังหวัดไปรษณีย์แล้ว ยังสามารถขนส่งโทรทัศน์ ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ เตียง ฯลฯ ไปยังจุดหมายปลายทางได้อีกด้วย ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือต้องการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยข้ามจังหวัด เป็นบริการที่มีความสะดวกและปลอดภัย
บริการส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์คืออะไร
สำหรับบริการส่งมอเตอร์ไซค์ทางไปรษณีย์ คือ บริการขนส่งของขนาดใหญ่ภายในประเทศ หรือโลจิสโพสต์ (Logispost) ให้บริการโดยไปรษณีย์ไทย สามารถส่งของขนาดใหญ่ตั้งแต่ 20 – 200 กิโลกรัม โดยจะถึงปลายทางภายใน 5 – 7 วัน หากเสียหายบริษัทจะชดใช้ตามจริงไม่เกิน 3,000 บาท และสามารถซื้อประกันเพิ่มได้สูงสุด 200,000 บาท สามารถติดตามสถานะของพัสดุทุกขั้นตอนการขนส่งด้วยระบบ Track &Trace หรือตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน Track &Trace และเว็บไซต์ www.thailandpost.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ดาวน์โหลดแอป Track & Trace : Android / iOS
ส่งรถมอเตอร์ไซค์กับไปรษณีย์ราคาเท่าไหร่ 2567
สำหรับค่าขนส่งขึ้นอยู่กับประเภทของรถมอเตอร์ไซค์ตามขนาดความจุเครื่องยนต์ และจังหวัดปลายทาง ซึ่งจะแบ่งเป็น 10 โซน แต่หากต้องมีการขนส่งด้วยเรือ หรือขนส่งในพื้นที่ที่ยากลำบาก จะมีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติมได้ โดยบริการโลจิสโพสต์นี้จะมีเฉพาะบางสาขาเท่านั้น สามารถสอบถามสาขาที่ให้บริการนี้ได้ผ่าน 1545 สายด่วนไปรษณีย์ไทยได้เลยครับ
อัตราค่าบริการขนส่งมอไซค์ไปรษณีย์คิดตามโซน
ขนาดเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์ | ค่าขนส่ง |
เครื่องยนต์ไม่เกิน 150 CC. | ราคาเริ่มต้น 1,200 – 1,680 บาท |
เครื่องยนต์เกิน 150 CC. แต่ไม่เกิน 400 CC. | ราคาเริ่มต้น 1,500 – 2,100 บาท |
เครื่องยนต์เกิน 400 CC. Big Bike ทุกขนาด CC. | ราคาเริ่มต้น 3,300 – 4,020 บาท |
อัตราค่าบริการขนส่งมอไซค์ไปรษณีย์ จะเพิ่มขึ้นตามระยะทางของต้นทางไปยังปลายทาง โดยราคาเริ่มต้นจะคิดจากโซน 1 – 10 ตามลำดับ ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 โซนตามจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้
- โซน 1 : กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ
- โซน 2 : สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
- โซน 3 : นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์
- โซน 4 : อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครนายก
- โซน 5 : อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์
- โซน 6 : แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน น่าน ลำปาง แพร่
- โซน 7 : กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชัยภูมิ อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา
- โซน 8 : หนองคาย บึงกาฬ เลย อุดรธานี นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู ขอนแก่น
- โซน 9 : ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช
- โซน 10 : กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี สตูล ยะลา นราธิวาส
ดูรายละเอียดค่าขนส่งตามโซนต่างๆ ได้ที่ อัตราค่าบริการรับฝากส่งสิ่งของ/สินค้าขนาดใหญ่
เอกสารที่ต้องใช้ในการส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้นำส่ง 2 ชุด
- สำเนาทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ 2 ชุด
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ 2 ชุด (กรณีที่ชื่อนำส่งไม่ตรงกับชื่อในเล่มจดทะเบียน)
ขั้นตอนการส่งมอเตอร์ไซค์ทางไปรษณีย์
- สอบถามสาขาที่ให้บริการขนส่งมอไซค์ผ่าน 1545 สายด่วนไปรษณีย์ไทย
- กรอกเอกสารการส่งมอเตอร์ไซค์ทางไปรษณีย์
- เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสภาพรถก่อนการจัดส่ง
- เจ้าหน้าที่จะทำการห่อหุ้มมอเตอร์ไซค์เพื่อป้องกันการกระแทกขณะขนส่ง โดยจะมีให้เลือกว่าจะเป็นกระดาษ หรือพลาสติกกันกระแทก (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
- ชำระค่าบริการขนส่ง
โดยเจ้าหน้าที่อาจมีการไขกระจกข้างออกเพื่อประหยัดพื้นที่ในการขนส่ง หรือดูดน้ำมันในถังออกถ้ามีปริมาณมากเกินไป เพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง โดยจะมีการแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบก่อน
สรุป บริการขนส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์ ปลอดภัยหายห่วง
บริการส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการขนส่งของขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องการนำรถไปใช้ในพื้นที่อื่น โดยไม่ต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นไปด้วยตัวเอง ช่วยประหยัดเวลา และลดความเสี่ยงจากการขับขี่ทางไกลได้อีกด้วย แต่ถ้าใครจำเป็นต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์ด้วยตัวเองจริงๆ การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ก็ได้รับความคุ้มครองครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ และความเสียหายต่างๆ ตามกรมธรรม์
ที่มา: ไปรษณีย์ไทย