เช็กเลย! ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง (Carry on) รวมทุกสายการบิน
ถ้ามีความจำเป็นต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ไม่ว่าจะเดินทางภายในประเทศหรือต่างประเทศ สิ่งที่ทุกคนต่างก็พกติดตัวไปด้วยเสมอ นั่นก็คือกระเป๋าสัมภาระหรือกระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่อง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ สายการบินมีการกำหนดขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง (Carry on) เอาไว้ด้วยนะ หากน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด คุณอาจต้องเสียเงินซื้อน้ำหนักเพิ่ม ฉะนั้นแล้ว มาดูกันว่าแต่ละสายการบินได้กำหนดน้ำหนักและขนาดสัมภาระขึ้นเครื่องไว้ที่เท่าไหร่ รู้ไว้ เดินทางครั้งไหนก็ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
เดินทางด้วยเครื่องบิน เก็บสัมภาระยังไง
สำหรับการเก็บสัมภาระเมื่อต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน จะมีด้วยกัน 2 รูปแบบด้วยกัน คือการถือกระเป๋าขึ้นเครื่อง (Carry on baggage) ซึ่งจะมีการกำหนดขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องเอาไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะจำกัดสูงสุดไม่เกิน 20-22 นิ้ว และน้ำหนักรวมจะต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม (อาจมีบางสายการบินกำหนดไว้ไม่เกิน 10 กิโลกรัม)
และอีกหนึ่งรูปแบบนั่นก็คือการโหลดกระเป๋าไว้ใต้ท้องเครื่อง (Checked baggage) จะสามารถบรรจุสัมภาระได้มากกว่าแบบ Carry on โดยสายการบินส่วนใหญ่จะกำหนดน้ำหนักที่สามารถโหลดได้ฟรีเอาไว้ 15 กิโลกรัม แต่ถ้าหากสัมภาระของคุณน้ำหนักเกินกว่านี้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
รวมขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง (Carry on) ทุกสายการบิน
ส่วนใหญ่สายการบินจะกำหนดขนาดกระเป๋าที่เอาขึ้นเครื่องได้อยู่ที่ 20 – 22 นิ้ว และมีน้ำหนักของสัมภาระขึ้นเครื่องไม่เกิน 7-10 กิโลกรัม หากมีขนาดใหญ่ หรือหนักมากกว่านั้นจะต้องโหลดใต้เครื่อง ทั้งนี้ข้อกำหนดขนาดกระเป๋าและน้ำหนักสัมภาระอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสายการบิน ซึ่งเราได้รวมข้อมูลของแต่ละสายการบินมาให้แล้ว ดูรายละเอียดได้ที่ด้านล่างเลย
สายการบิน AirAsia
แอร์เอเชีย (AirAsia) เป็นสายการบินที่ให้บริการเส้นทางการบินในประเทศหลายจังหวัด เช่น อุดร ขอนแก่น ตรัง กระบี่ เชียงใหม่ และอีกหลายๆ ที่ และให้บริการบินระหว่างประเทศทั่วทวีปเอเชีย สำหรับขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ตามนโยบายของสายการบินแอร์เอเชีย มีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดกระเป๋า : 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. (22 นิ้ว)
- น้ำหนักไม่เกิน : 7 กิโลกรัม
สายการบิน Nok Air
นกแอร์ (Nok Air) เป็นสายการบินที่ให้บริการในหลายๆ พื้นที่ทั่วไทยและภายในทวีปเอเชีย เช่น เวียดนาม ไต้หวัน จีน สิงคโปร์ อินเดีย และญี่ปุ่น สำหรับขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ตามนโยบายของสายการบินนกแอร์ มีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดกระเป๋า : 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. (22 นิ้ว)
- น้ำหนักไม่เกิน : 7 กิโลกรัม
สายการบิน Thai Lion Air
ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) เป็นสายการบินที่มีพื้นที่ให้บริการทั้งภายในประเทศไทยและประเทศในทวีปเอเชีย เช่น จีน เนปาล ไต้หวัน อินโดนีเซีย และเวียดนาม สำหรับกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ตามนโยบายของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ มีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดกระเป๋า : 30 ซม. x 40 ซม. x 20 ซม. (15 นิ้ว)
- น้ำหนักไม่เกิน : 7 กิโลกรัม
สายการบิน Thai Airways
การบินไทย (Thai Airway) เป็นสายการบินสัญชาติไทยที่มีพื้นที่ให้บริการมากมาย เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสิงคโปร์ เนปาล เดนมาร์ก และอีกมากกว่า 35 ประเทศ สำหรับขนาดกระเป๋าที่เอาขึ้นเครื่องได้ ตามนโยบายของสายการบินไทย มีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดกระเป๋า : 56 ซม. x 45 ซม. x 25 ซม. (22 นิ้ว)
- น้ำหนักไม่เกิน : 7 กิโลกรัม
สายการบิน Thai Smile
ไทยสมายล์ (Thai Smile) เป็นสายการบินที่มีพื้นที่ให้บริการหลายแห่ง มีเส้นทางการบินภายในประเทศ เช่น นครพนม นครศรีธรรมราช นราธิวาส น่าน ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และอีกมากมาย สำหรับขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ตามนโยบายของสายการบินไทยสมายล์ มีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดกระเป๋า : 36 ซม. x 56 ซม. x 23 ซม. (22 นิ้ว)
- น้ำหนักไม่เกิน : 7 กิโลกรัม
สายการบิน Bangkok Airways
บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เป็นสายการบินของไทยที่ให้บริการในหลายจังหวัด และมีเส้นทางการบินต่างประเทศ เช่น เวียงจันทน์ กัวลาลัมเปอร์ มัลดีฟส์ มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และอีกหลายประเทศ สำหรับขนาดสัมภาระขึ้นเครื่องที่อนุญาตให้นำขึ้นตามนโยบายของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ มีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดกระเป๋า : 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. (22 นิ้ว)
- น้ำหนักไม่เกิน : 5 กิโลกรัม
สายการบิน Thai Vietjet Air
ไทยเวียตเจ็ทแอร์ (Thai Vietjet Air) เป็นสายการบินที่ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั้งในไทยและต่างประเทศเช่น อุดรธานี อุบลราชธานี กระบี่ ภูเก็ต และจังหวัดอื่นๆ สำหรับขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ตามนโยบายของสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ มีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดกระเป๋า : 56 ซม. x 36 ซม. x 23 ซม. (22 นิ้ว)
- น้ำหนักไม่เกิน : 7 กิโลกรัม
ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องมีน้ำหนักเกิน ทำยังไง
หากสัมภาระของคุณมีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด ทางที่ดีให้ชั่งกระเป๋าให้แน่ใจว่าเกินจริงไหม และดูว่าเกินกี่กิโลกรัม จากนั้นให้คุณจัดกระเป๋าใหม่ ถ้าน้ำหนักเกินมาเยอะ ให้คุณดูว่าสิ่งของชิ้นไหนบ้างที่จำเป็น หรือไม่จำเป็น หากมีสิ่งของที่ไม่จำเป็น ลองเช็กดูว่าระหว่างการส่งพัสดุไปยังปลายทางกับการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มอันไหนจะคุ้มกว่ากันทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียไป ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะไม่สามารถนำกระเป๋าขึ้นเครื่องได้
สรุป ข้อควรรู้เกี่ยวกับขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องบิน
สำหรับใครที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ด้วยเครื่องบิน ก่อนจะออกจากบ้าน เราแนะนำให้คุณตรวจเช็กสัมภาระให้ดี ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่จำเป็น เช็กว่าลืมอะไรหรือไม่ และชั่งน้ำหนักให้ไม่เกินตามนโยบายที่สายการบินกำหนด ถ้าหากคุณคิดว่าจะมีการเดินทางด้วยกระเป๋าหลายใบ และมีน้ำหนักที่เยอะกว่าขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องที่สายการบินกำหนดเอาไว้ คุณควรซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มตั้งแต่จองตั๋ว เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่าการไปซื้อน้ำหนักเพิ่มในเคาน์เตอร์เช็กอินนั่นเอง
ที่มา: insurverse