รถ Tesla เทสล่าราคาเท่าไหร่ ในไทยนิยมใช้รุ่นไหนบ้าง 2024
ใครที่สนใจรถไฟฟ้า คงเคยได้ยินชื่อ Tesla กันบ่อยๆ แบรนด์นี้ถือว่าเป็นผู้นำในวงการรถไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำและดีไซน์สุดพรีเมียม และในตอนนี้มีศูนย์ให้บริการในไทยแล้วด้วย ทำให้หลายๆ คนต่างก็อยากพากันเป็นเจ้าของ ซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าเทสล่า ราคาไทยมันแพงแค่ไหน แล้วคนไทยนิยมใช้รุ่นอะไรกันบ้าง วันนี้เราจะพามาดูกันว่าในปี 2024 นี้ รถเทสล่าราคาเท่าไหร่ และมี Tesla รุ่นไหนที่ฮิตกันบ้าง
รถเทสล่าราคาเท่าไหร่ ทำไมถึงได้รับความสนใจ
รถเทสล่าในไทยปี 2024 มีการปรับราคาลงมา ซึ่งจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาทสำหรับ Tesla รุ่นเล็กอย่าง Model 3 ไปจนถึง 4-5 ล้านบาทสำหรับรุ่นใหญ่อย่าง Model X หรือ Model S ถือว่าแพงกว่ารถไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ อยู่บ้าง แต่ราคารถเทสล่าก็ถูกลงกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อย ใครกำลังเล็งรถแบรนด์นี้ไว้ต้องรีบเลย
และถึงว่าเทสล่าราคาจะสูง แต่เทสล่าก็ยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เพราะเทสล่าไม่ได้เป็นเพียงแค่รถธรรมดา แต่เป็นถึงรถไฮเทคที่มีฟีเจอร์เจ๋งๆ มากมาย ทั้งระบบขับอัตโนมัติ ซอฟต์แวร์ที่อัปเดตบ่อย หน้าจอขนาดใหญ่ภายในรถ แถมยังวิ่งได้ไกล ชาร์จก็เร็วกว่าเมื่อเทียบกับหลายๆ แบรนด์ จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อเป็นเจ้าของ
4 อันดับรถ Tesla ที่คนไทยนิยมใช้ในปี 2024
ใครเริ่มสนใจรถเทสล่าแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดี มาดู 4 อันดับรถ Tesla ที่คนไทยนิยมใช้ในปี 2024 กันดีกว่า พร้อมอัปเดตรถเทสล่าราคาเท่าไหร่
1.Tesla Model 3
รถ Tesla Model 3 มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ซึ่งสเปคและราคา มีดังนี้
Tesla Model 3 (ตัวเริ่มต้น)
- มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
- วิ่งได้สูงสุด 438 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 225 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 4.2 วินาที
- ราคา 1,590,000 บาท
Tesla Model 3 รุ่น Long Range
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 576 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 233 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 4.2 วินาที
- ราคา 1,890,000 บาท
Tesla Model 3 รุ่น Performance (รุ่นนี้เลิกขายแล้ว)
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 507 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 260 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 3.1 วินาที
- ราคา 2,150,000 บาท
2.Tesla Model X
รถ Tesla Model X มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ซึ่งสเปคและราคา มีดังนี้
Tesla Model X (ตัวเริ่มต้น)
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 565 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 3.8 วินาที
- Tesla Model X ราคา 3,900,000 บาท
Tesla Model X รุ่น Plaid
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 540 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 262 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 2.5 วินาที
- ราคา 4,690,000 บาท
3.Tesla Model Y
รถ Tesla Model Y มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ซึ่งสเปคและราคา มีดังนี้
Tesla Model Y (ตัวเริ่มต้น)
- มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
- วิ่งได้สูงสุด 455 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 217 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 6.9 วินาที
- ราคา 2,000,000 บาท
Tesla Model Y รุ่น Long Range
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 533 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 217 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 5 วินาที
- ราคา 2,600,000 บาท
Tesla Model Y รุ่น Performance
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 514 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 3.7 วินาที
- ราคา 3,000,000 บาท
4.Tesla Model S
รถ Tesla Model S มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ซึ่งสเปคและราคา มีดังนี้
Tesla Model S รุ่น Dual Motor
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 652 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 3.1 วินาที
- Tesla Model S ราคา 3,780,000 บาท
Tesla Model S รุ่น Plaid Tri Motor
- มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- วิ่งได้สูงสุด 637 กม./ชาร์จ
- ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 322 กม./ชม.
- เร่งความเร็วจาก 0-100 ได้ใน 1.99 วินาที
- ราคา 4,900,000 บาท
ความต่างของรถไฟฟ้าเทสล่าและแบรนด์อื่น
เทสล่าโดดเด่นเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีสุดล้ำ รถของเทสล่าวิ่งไกลกว่า ชาร์จเร็วกว่า และมีฟีเจอร์เจ๋งๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติที่ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ หน้าจอทัชสกรีนยักษ์ที่ควบคุมทุกอย่างในรถได้ หรือแม้แต่โหมดคาราโอเกะและเกม คุณก็สามารถเล่นได้ในรถเลย (แต่อย่าเล่นในตอนขับรถละกัน!) นอกจากนี้ดีไซน์ยังดูทันสมัยและเรียบหรูกว่าหลายๆ แบรนด์ ใครชอบความพรีเมียมต้องลอง
สรุป เทสล่าราคาสูงกว่าหลายแบรนด์ แต่ทำไมยังน่าซื้อ
ถึงเทสล่าราคาจะแพงกว่ารถไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ แต่มันก็คุ้มค่าสำหรับคนที่ชอบของใหม่ๆ และอยากได้รถที่ล้ำสมัย เพราะเทสล่าไม่ได้ขายแค่รถ แต่ขายประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า ตั้งแต่ระบบซอฟต์แวร์ที่อัปเดตบ่อยๆ ทำให้รถใหม่อยู่เสมอ ไปจนถึงสถานที่ชาร์จที่กว้างขวางและใช้งานง่าย
นอกจากนี้ เทสล่ายังเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดี ทั้งในแง่ของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้การเป็นเจ้าของรถ Tesla รุ่นต่างๆ ดูเท่และดูดีในสายตาคนอื่น แถมยังมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถน้ำมันทั่วไป และราคารถเทสล่าเมื่อขายต่อยังได้ราคาที่ค่อนข้างดี เลยทำให้หลายคนยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อรถแบรนด์นี้ถึงแม้จะมีตัวเลือกที่ถูกกว่าในตลาดก็ตาม
ที่มา: carsome