กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ วิธีแก้ทำยังไง กินอะไรให้หายไว

อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ นอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการกินอาหาร การพูดคุย หรือแม้แต่การนอนหลับด้วย บทความนี้ประกันติดโล่จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสาเหตุของอาการ พร้อมแนะนำวิธีแก้เจ็บคอ กลืนน้ำลายไม่ได้ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองกันครับ
สาเหตุของอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ
เมื่อมีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ หลายคนมักเข้าใจผิดว่า จะต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเท่านั้น แต่ความจริงแล้วอาการดังกล่าวเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุก็มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป มาทำความเข้าใจกันว่าอาการเจ็บคอของคุณเกิดจากสาเหตุใด
การติดเชื้อไวรัส
การติดเชื้อไวรัสเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ และมักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล เสียงแหบ และอาจมีอาการปวดเมื่อยตามตัว โดยเชื้อไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่ เชื้อไวรัสไข้หวัดตามฤดูกาล, เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคติดต่อต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่สามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
การติดเชื้อแบคทีเรีย
เมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย จะทำให้มีอาการเจ็บคอรุนแรงกว่าการติดเชื้อไวรัส โดยจะสังเกตเห็นจุดหนองสีขาวบริเวณต่อมทอนซิล ต่อมน้ำเหลืองใต้คางบวมโต และมีไข้สูง แต่มักไม่มีอาการไอ หรือน้ำมูกไหล ส่วนวิธีการรักษาจะแตกต่างจากการติดเชื้อไวรัสตรงที่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะภายใต้การดูแลของเภสัชกร หรือแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
สาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ
นอกจากการติดเชื้อแล้ว อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การใช้เสียงมากเกินไป การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ ภาวะกรดไหลย้อน หรือการแพ้อากาศ ในกรณีนี้ การรักษาจะเน้นที่การแก้ไขสาเหตุ และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม
วิธีแก้เจ็บคอ กลืนน้ำลายไม่ได้ ด้วยตนเอง
เมื่อมีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ คุณสามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น
ในช่วงที่มีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ควรดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่นบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับลำคอ ซึ่งจะช่วยลดอาการระคายเคืองและช่วยชะล้างเชื้อโรคได้ โดยแนะนำให้จิบน้ำทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง ดีกว่าการดื่มครั้งละมากๆ เพราะจะช่วยให้ลำคอชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา และไม่ทำให้รู้สึกเจ็บมากขณะกลืน
2. ใช้สเปรย์พ่นคอ หรืออมลูกอมแก้เจ็บคอ
สเปรย์พ่นคอและลูกอมแก้เจ็บคอเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ โดยสเปรย์พ่นคอจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ ส่วนลูกอมแก้เจ็บคอที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บและระคายคอได้ แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน และควรเลือกชนิดที่ไม่มีน้ำตาลมากจนเกินไป
3. งดใช้เสียงในช่วงที่เจ็บคออยู่
การพูดคุย ตะโกน หรือร้องเพลงจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอทำงานหนักและระคายเคืองมากขึ้น ในช่วงที่มีอาการเจ็บคอควรลดการใช้เสียงลง หรือถ้าจำเป็นต้องพูดก็ควรพูดเบาๆ และพูดเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ลำคอได้พักและฟื้นตัว
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีมลภาวะทางอากาศ
มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง และควันบุหรี่ล้วนเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้อาการเจ็บคอรุนแรงขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง และหากจำเป็นต้องออกนอกบ้านในช่วงที่คุณภาพอากาศไม่ดี ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการระคายเคือง
5. ทำความสะอาดห้องนอนอยู่เสมอ
สภาพแวดล้อมในห้องนอนมีผลต่อการฟื้นตัวของอาการเจ็บคอ ควรทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำ เช็ดฝุ่น ซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน รวมถึงจัดการกับความชื้นให้เหมาะสม เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรคที่อาจทำให้อาการเจ็บคอแย่ลง
6. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และสำหรับใครที่มีอาการเจ็บคอจากกรดไหลย้อน ควรจัดท่านอนให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวเล็กน้อย เพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองจากการไหลย้อนของน้ำลาย หรือกรดในกระเพาะอาหาร
กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ควรกินอะไรดี
ในช่วงที่มีอาการเจ็บคอ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยบรรเทาอาการและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่ายอย่าง โจ๊ก ซุปไก่ ไข่ต้ม และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง นอกจากนี้ยังควรดื่มน้ำอุ่น น้ำผึ้งมะนาว หรือชาสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอด้วย
กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ไม่ควรกินอะไร
เพื่อไม่ให้อาการเจ็บคอแย่ลง ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มบางประเภท เช่น อาหารรสจัด อาหารทอดมัน เครื่องดื่มเย็นจัด เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ รวมถึงอาหารที่มีกรดสูง เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบมากขึ้น
อาการเจ็บคอแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
แม้ว่าอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ส่วนใหญ่จะสามารถหายได้เอง หรือรักษาด้วยวิธีง่ายๆ แต่ในบางกรณีก็จำเป็นต้องพบแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น
- มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
- เจ็บคอรุนแรงจนกลืนน้ำลายแทบไม่ได้
- มีจุดหนองสีขาวที่ต่อมทอนซิล
- อาการไม่ดีขึ้นหลังจากดูแลตัวเองเป็นเวลา 1 สัปดาห์
- มีผื่นขึ้นตามตัวร่วมด้วย
- หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงหวีด
กลืนน้ำลายแล้วเจ็บหู วิธีแก้ทำยังไง เหมือนกับเจ็บคอไหม
ไม่เหมือนกัน โดยอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บหูอาจเกิดจากการอักเสบติดเชื้อของรูหูชั้นนอก หรือเกิดจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในรูหู มีสิวหรือฝีในรูชั้นนอกหู หรือมีปัญหาขี้หูอุดตัน ถ้าหากคุณมีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บหูบ่อยๆ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหู กดเจ็บบริเวณหน้าใบหู มีน้ำเหลืองไหลออกมา รูหูบวมแดง หรือได้ยินเสียงดังในหู ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมจะดีที่สุด
สรุป กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ดีขึ้นได้ ถ้าดูแลอย่างถูกจุด
อาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ เป็นอาการที่สร้างความรำคาญและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต แต่สามารถบรรเทาและรักษาให้หายได้ด้วยการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม เพื่อความอุ่นใจและพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นหากจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา การทำประกันสุขภาพจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยประกันติดโล่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมจากบริษัทประกันชั้นนำ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดเมื่อเจ็บป่วย
ที่มา: โรงพยาบาลวิมุต