โนโรไวรัส (Norovirus) โรคระบาดในเด็กเล็ก รับมือยังไงดี?

โรคระบาดในเด็กเล็กที่มักพบบ่อยในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะโนโรไวรัส (Norovirus) ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลใจ เพราะเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่าย และส่งผลให้เด็กมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนค่อนข้างรุนแรง บทความนี้ประกันติดโล่จะพาคุณมาทำความรู้จักกับโนโรไวรัส พร้อมแนะนำวิธีป้องกันและดูแลรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
ทำความรู้จักกับโรคโนโรไวรัส
โนโรไวรัส คือ ไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร มีความทนทานต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อ สามารถแพร่กระจายได้ง่ายแม้ได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย โดยมักพบการระบาดในช่วงฤดูหนาว และพบบ่อยในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงพยาบาล ภัตตาคาร หรือแม้แต่เรือและรถท่องเที่ยว
โนโรไวรัสกับโรต้าไวรัส มีความแตกต่างกันยังไง
โนโรไวรัสและโรต้าไวรัสเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียคล้ายกัน แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ โรต้าไวรัสมักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และมีวัคซีนป้องกันได้ ในขณะที่โนโรไวรัสสามารถติดเชื้อได้ทุกช่วงอายุและยังไม่มีวัคซีนป้องกัน นอกจากนี้ โนโรไวรัสมักมีอาการอาเจียนรุนแรงกว่า และระยะฟักตัวสั้นกว่า คือประมาณ 12-48 ชั่วโมง ในขณะที่โรต้าไวรัสมีระยะฟักตัว 1-6 วัน
โนโรไวรัส เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง
การติดเชื้อโนโรไวรัสสามารถเกิดได้หลายช่องทาง เนื่องจากเป็นเชื้อที่แพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก สาเหตุหลักๆ ได้แก่
- การรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงไม่สุก เช่น อาหารทะเล ผักผลไม้สดที่ล้างไม่สะอาด
- การสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง หรือสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อน แล้วนำมือเข้าปาก
- การหายใจเอาละอองฝอยจากการอาเจียนของผู้ป่วยเข้าไป
- การใช้ภาชนะร่วมกับผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะในครอบครัวหรือโรงเรียน
โนโรไวรัส ลักษณะอาการเป็นยังไง
เมื่อได้รับเชื้อโนโรไวรัส ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการภายในระยะเวลา 12-48 ชั่วโมง ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นอาหารเป็นพิษ เนื่องจากมีอาการคล้ายคลึงกัน โดยความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปตามช่วงวัยและภูมิต้านทานของแต่ละคน
อาการโนโรไวรัสในเด็กเล็ก
เด็กเล็กที่ติดเชื้อโนโรไวรัสมักมีอาการรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ โดยจะมีอาการอาเจียนบ่อยครั้ง ท้องเสียเป็นน้ำ มีไข้ต่ำๆ ปวดท้อง และอ่อนเพลีย ที่น่ากังวลคือเด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่จากการอาเจียนและท้องเสียอย่างรุนแรง
อาการโนโรไวรัสในผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อโนโรไวรัสมักมีอาการไม่รุนแรงเท่าเด็ก แต่จะพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดมวนท้อง มีไข้ต่ำๆ และปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นเองภายใน 1-3 วันครับ
เมื่อลูกเป็นโนโรไวรัสควรรับมือยังไงดี
เมื่อพบว่าลูกมีอาการของโรคโนโรไวรัส สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันภาวะขาดน้ำ และดูแลตามอาการ โดยมีวิธีการรักษาเบื้องต้น ดังนี้
- ให้ดื่มน้ำเกลือแร่บ่อยๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่จากการอาเจียนและท้องเสีย
- ให้รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย งดอาหารรสจัด
- หากมีไข้สามารถให้ยาลดไข้ได้ตามคำแนะนำของแพทย์
- ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากเป็นการติดเชื้อไวรัส
- พักผ่อนให้เพียงพอ และแยกผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ
- หากมีอาการรุนแรง เช่น อาเจียนตลอดเวลา ซึม หรือปัสสาวะน้อย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
แนะนำวิธีป้องกันโนโรไวรัสในช่วงที่มีการระบาด
การป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัสเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และเชื้อสามารถแพร่กระจายได้ง่าย แนะนำให้ป้องกันด้วยวิธีการต่อไปนี้
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด อย่างน้อย 15-20 วินาที
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด และร้อน
- ล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน
- ใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- ทำความสะอาดพื้นผิวและสิ่งของที่มีการสัมผัสบ่อยๆ
- งดทำอาหารให้ผู้อื่นหากมีอาการป่วย
สรุป โนโรไวรัสในเด็กเล็ก แม้จะอันตราย แต่ก็รักษาได้
โนโรไวรัสเป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก แม้จะมีอาการรุนแรงแต่สามารถหายได้เองภายใน 1-3 วัน สิ่งสำคัญคือการป้องกันภาวะขาดน้ำและการแพร่กระจายเชื้อ การรักษาสุขอนามัยที่ดี โดยเฉพาะการล้างมือให้สะอาด และการรับประทานอาหารที่สะอาดปลอดภัย จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
เพื่อความอุ่นใจยิ่งขึ้น ประกันติดโล่แนะนำให้ทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน รวมถึงการรักษาในกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้คุณและครอบครัวได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย หากสนใจ สามารถติดต่อที่ประกันติดโล่ได้เลย เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างดีที่สุด
ที่มา: โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ