รู้จัก ECO Sticker ติดรถยนต์ คืออะไร รถทุกคันต้องมีไหม?

การซื้อรถยนต์ในปัจจุบัน นอกจากจะพิจารณาเรื่องราคา รูปลักษณ์ภายนอก และฟังก์ชันการใช้งานแล้ว สิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ การตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพของรถยนต์ โดยหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรถได้ง่ายขึ้นก็คือ ECO Sticker ประกันติดโล่จะพาคุณมาทำความรู้จักกับป้ายข้อมูลมาตรฐานสากลนี้กันครับ
ECO Sticker คืออะไร
ECO Sticker คือ ป้ายข้อมูลรถยนต์ที่แสดงรายละเอียดตามมาตรฐานสากล ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์สามารถเปรียบเทียบข้อมูลสำคัญของรถแต่ละรุ่นได้อย่างชัดเจน ทั้งในด้านการปล่อยมลพิษ อัตราการใช้น้ำมัน และมาตรฐานความปลอดภัย โดยข้อมูลทั้งหมดจะผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) หรือหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
ECO Sticker ติดรถยนต์ มีกี่รูปแบบ
การแสดงสมรรถนะของรถยนต์บน ECO Sticker จะครอบคลุม 3 ด้านหลักๆ ได้แก่ ความสะอาด ความประหยัด และความปลอดภัย โดยมีรูปแบบการแสดงข้อมูล 2 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้
1. ECO Sticker ที่แสดงผลเป็นค่าตัวเลข
ส่วนนี้จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการปล่อย CO2 และอัตราการใช้น้ำมันในสภาวะต่างๆ ทั้งในเมือง นอกเมือง และค่าเฉลี่ยรวม ซึ่งต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 โดยจะมีแถบแสดงระดับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไม้บรรทัดยาว เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่ารถคันนั้นประหยัดน้ำมันมากน้อยเพียงใด
2. ECO Sticker ที่มีเครื่องหมายถูกสีเขียวในช่องสี่เหลี่ยม
เครื่องหมายถูกสีเขียวในช่อง ECO Sticker แสดงถึงการผ่านการรับรองมาตรฐานต่างๆ จาก สมอ. หรือการทดสอบตามข้อกำหนดของสหภาพยุโรป โดยมีมาตรฐานสำคัญที่ต้องผ่านการรับรอง ได้แก่
- มาตรฐานมลพิษ (ใบอนุญาต สมอ.)
- มาตรฐานการปล่อยสารมลพิษ (UN R83)
- มาตรฐานการวัดอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง (UN R101)
- มาตรฐานการชนด้านหน้า (UN R94)
- มาตรฐานการชนด้านข้าง (UN R95)
- มาตรฐานระบบเบรก ABS และ ESC (UN R13H)
- มาตรฐานระบบไฟฟ้าสำหรับรถ EV (UN R100)
- มาตรฐานแบตเตอรี่ (ใบอนุญาต สมอ.)
รถยนต์ทุกคันจำเป็นต้องมี ECO Sticker
รถยนต์ทุกคันที่จำหน่ายในประเทศไทยจำเป็นต้องมี ECO Sticker เพราะเป็นข้อกำหนดตามกฎหมายที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบข้อมูลสำคัญของรถยนต์แต่ละรุ่นได้อย่างโปร่งใส นอกจากนี้ ข้อมูลบน ECO Sticker ยังมีผลต่อการคำนวณภาษีสรรพสามิตของรถยนต์ โดยเฉพาะในส่วนของอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 อีกด้วยH2 ตัวอย่าง ECO Sticker ที่รถยนต์ทุกคันควรมี
การทำความเข้าใจข้อมูลบน ECO Sticker จะช่วยให้คุณเลือกรถได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านความสะอาด ความประหยัด และความปลอดภัย มาดูรายละเอียดกันครับ
ECO Sticker ในด้านความสะอาด
ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ECO Sticker จึงแสดงข้อมูลด้านมลพิษที่ช่วยให้คุณเลือกรถที่ปล่อยมลพิษต่ำได้ง่ายขึ้น โดยมาตรฐานที่ควรสังเกตมีดังนี้
- มาตรฐาน Euro 4 เป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่รถทุกคันในไทยต้องผ่าน
- มาตรฐาน Euro 5 มีความเข้มงวดในการควบคุมมลพิษมากขึ้น
- มาตรฐาน Euro 6 เป็นมาตรฐานสูงสุดในปัจจุบันที่ควบคุมการปล่อยมลพิษอย่างเข้มงวดที่สุด
ECO Sticker ในด้านความประหยัด
ข้อมูลอัตราการใช้น้ำมันบน ECO Sticker ช่วยให้คุณประเมินค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้แม่นยำขึ้น โดยจะแสดงอัตราการใช้น้ำมันใน 3 รูปแบบ ได้แก่
- สภาวะในเมือง (Urban) แสดงอัตราการใช้น้ำมันในการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด
- สภาวะนอกเมือง (Extra-Urban) แสดงอัตราการใช้น้ำมันในการขับขี่บนทางด่วนหรือถนนที่การจราจรคล่องตัว
- สภาวะรวม (Combined) แสดงค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันโดยรวม
ECO Sticker ในด้านความปลอดภัย
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการใช้รถใช้ถนน ECO Sticker จึงแสดงมาตรฐานความปลอดภัยที่รถยนต์ผ่านการรับรอง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระบบหลัก ได้แก่
- ระบบความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) เช่น มาตรฐาน UN R13H รับรองระบบเบรก ABS และ ESC, ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้งหรือหลบหลีก
- ระบบความปลอดภัยขณะเกิดเหตุ (Passive Safety) เช่น มาตรฐาน UN R94 รับรองการป้องกันผู้โดยสารเมื่อเกิดการชนด้านหน้า หรือมาตรฐาน UN R95 รับรองการป้องกันผู้โดยสารเมื่อเกิดการชนด้านข้าง
ECO Sticker ยางรถยนต์
ECO Sticker ยางรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์ต้องเช็กให้ดี เพราะนอกจากจะบอกข้อมูลพื้นฐานของยางรถยนต์อย่างยี่ห้อ รุ่น ขนาด ไทร์คลาส (Tyre Class) แล้ว ยังบอกถึงข้อมูลการทดสอบยางที่สำคัญทั้ง 3 ค่า ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานรถยนต์ด้วย ได้แก่
- ค่าความต้านทานการหมุน (Rolling Resistance) แสดงถึงความสามารถในการประหยัดน้ำมันได้ โดยถ้ามีค่าต่ำ จะใช้แรงในการขับเคลื่อนที่น้อยกว่า ทำให้ประหยัดพลังงานได้มากกว่า
- ค่าการยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก (Wet Grip Index) แสดงถึงความปลอดภัยในการขับขี่ โดยถ้ามีค่าสูง ก็จะมีความสามารถในการยึดเกาะถนนพื้นเปียกได้ดีกว่า
- ค่าระดับเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน (Noise Measure Value) แสดงถึงเสียงจากรถยนต์ที่เกิดขึ้นขณะการใช้งาน โดยกฎหมายกำหนดไว้ไม่ให้เกินสามคลื่นเสียง
เราสามารถเช็ก ECO Sticker ได้ที่ไหน
สำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ท่านไหนที่ต้องการดูข้อมูล ECO Sticker ของรถยนต์แต่ละยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น ECO Sticker Honda City, Toyota, Honda, Isuzu, Nissan, Ford หรือรุ่นอื่นๆ สามารถเช็กข้อมูล ECO Sticker ของรถยนต์ทุกรุ่นได้ที่ https://www.car.go.th/landing-page เลย
สรุป ECO Sticker สัญลักษณ์ของรถยนต์ที่มีมาตรฐานสากล
ECO Sticker เปรียบเสมือนใบรับรองมาตรฐานที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า รถยนต์คันที่คุณเลือกผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสากลทั้งในด้านความสะอาด ประหยัด และปลอดภัย การทำความเข้าใจข้อมูลบน ECO Sticker จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรถได้ตรงตามความต้องการ มีคุณภาพ และคุ้มค่ากับการใช้งานในระยะยาว
นอกจากการพิจารณาข้อมูลจาก ECO Sticker แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการทำประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ประกันติดโล่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณเลือกแผนประกันที่เหมาะสม เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ และได้รับความคุ้มครองคุ้มค่าตลอดการใช้งานครับ
ที่มา: ECO Sticker