คิดให้ดี ก่อนนำรถไปติดแก๊ส
เนื่องจากในปัจจุบันราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พลังงานทดแทนได้รับความนิยมเพราะมีราคาที่ถูกกว่า ยิ่งช่วง 5 ปีที่แล้วที่กระแสรถติดแก๊สได้รับความนิยมจนเกิดกระแสว่า “อยากประหยัดน้ำมันต้องนำรถไปติดแก๊ส” ไม่ว่าจะเป็นแก๊สแบบ LPG หรือ CNG ต่างก็มีราคาถูก และวิ่งได้ในระยะทางที่ไม่แตกต่างจากน้ำมัน
แต่มีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสียเช่นกัน จึงเริ่มมีผู้ใช้ท้วงติงถึงปัญหาต่าง ๆ มากมาย วันนี้ประกันติดโล่จะมาบอกเล่าถึงข้อดีและข้อเสียให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจสำหรับทุกท่านที่คิดจะนำรถไปติดแก๊ส
ข้อดีของรถติดแก๊ส
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมรถติดแก๊สถึงได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะรถแท็กซี่ ที่ถึงแม้ตอนนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลงแล้ว แต่จำนวนรถที่ติดแก๊สยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ดังนั้นมาดูข้อดีต่าง ๆ จากการนำรถไปติดแก๊สกันเลยครับ
-
ประหยัดค่าน้ำมัน
เพราะแก๊สมีราคาต่อหน่วยถูกกว่าน้ำมันเกือบครึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้รถเดินทางบ่อย ๆ หรือผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะ เช่น แท็กซี่ และยังตัดปัญหาด้านราคาน้ำมันผันผวนขึ้นลงด้วย เพราะช่วงที่พลังงานทดแทนเข้ามาตอนนั้นน้ำมันส่วนใหญ่ราคาเกือบ 40 บาทต่อลิตร ทำให้มีช่วงหนึ่งที่กระแสรถติดแก๊สได้รับความนิยมมาก เพราะราคาน้ำมันสูงเกินระดับราคาที่จะสามารถเอื้อมถึงได้
การนำรถไปติดแก๊สในช่วงนั้นจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก โดยก่อนหน้านี้พลังงานทดแทนที่ได้รับความนิยมคือแก๊สโซฮอล ที่มาสู้ในเรื่องของราคาน้ำมันโดยเฉพาะแล้วการติดแก๊สตามมาอีกที ซึ่งถูกกว่าแก๊สโซฮอลประมาณ 5-10 บาท
-
มีจำนวนสถานีเยอะ
นอกจากปั๊มน้ำมันที่มีเยอะแล้ว บริการเติมแก๊สก็เยอะไม่แพ้กัน ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็มีให้บริการในแต่ละจุด จึงสะดวกในราคาที่ไม่สูงมาก อาจเป็นเพราะผู้ที่ใช้แก๊สส่วนใหญ่เป็นรถยนต์สาธารณะซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ ทำให้มีบริการเติมแก๊สสูงพอกับปั๊มน้ำมันปกติ
ข้อระวังของรถติดแก๊ส
ข้อระวังของรถติดแก๊สเป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยมีคนบอกมากนัก เพราะเมื่อมีความเชื่อว่าราคาถูกกว่าไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน ทำให้คนหันไปเติมแก๊สกันหมดจนลืมนึกถึงผลเสียที่อาจตามมา ซึ่งข้อเสียนั้นมีหลายข้อที่จะค้านความเชื่อที่ผ่านมา ดังนี้
-
ค่าติดตั้งแพง
ก่อนจะเติมแก๊สได้จะต้องมีการติดตั้ง ซึ่งค่าติดตั้งนี้ราคาสูงกว่า 30,000 บาท ราคาสูงมากกว่าอะไหล่ทั่วไปของรถยนต์เกือบสามเท่า หรือถ้านำเงินตรงนี้ไปเติมน้ำมันก็สามารถวิ่งได้กว่าหลักหมื่นกิโลเมตร และที่สำคัญคือจะต้องมีการจูนแก๊สอย่างต่อเนื่อง มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาตามมา อย่างเช่น เครื่องสั่นผิดปกติ วาล์วดัน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อรถในระยะยาว
-
เครื่องยนต์เสื่อมสภาพไวกว่า
ความร้อนในการเผาไหม้ของระบบแก๊สนั้นสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้การสึกหรอของเครื่องยนต์นั้นเกิดเร็วขึ้น เป็นเหตุให้รถยนต์เสื่อมสภาพไวกว่าปกติ และเครื่องยนต์ส่วนใหญ่ออกแบบมาไม่ได้ทนความร้อนสูงมากนัก เพราะปกติน้ำมันไม่ได้มีความร้อนสูง เมื่อได้รับความร้อนจากการเผาไหม้แก๊ส ทำให้การถ่ายเทความร้อนของรถยนต์ทำงานหนักเกินกว่าที่เครื่องจะรับได้ หากต้องการรักษาเครื่องยนต์ให้สามารถใช้งานได้ต่อไปนาน ๆ ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งแก๊สจะดีกว่า
-
แก๊สทำให้รถเสื่อมราคา
วงการรถยนต์ต่างก็รู้กันดีว่ารถที่เคยติดแก๊สมานั้น อัตราการเสื่อมสภาพจะค่อนข้างสูง ราคาของรถที่เคยติดแก๊สจึงถูกกว่าปกติค่อนข้างมาก หากคิดว่าจะไม่ได้ใช้รถในระยะยาวแล้วจะต้องขายในอนาคต การติดแก๊สจะทำให้ราคาขายไม่คุ้มค่าแน่นอน และสามารถทำให้เครื่องพังในระยะยาวอีก เพราะรถมือสองสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดคือเครื่องยนต์ แต่การใช้แก๊สทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ หากนำไปขายต่อจึงไม่ค่อยได้ราคาเท่าไหร่ เพราะรถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่ราคาลดลงตามค่าเสื่อมไม่เหมาะกับการซื้อไว้เก็งกำไร
-
โอกาสเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่า
อุบัติเหตุบนรถยนต์เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้ารถของคุณติดแก๊ส หากเกิดอุบัติเหตุมีโอกาสที่แก๊สรั่วแล้วติดไฟจนระเบิดได้ง่าย เพราะเป็นเชื้อเพลงชั้นดี มีโอกาสติดไฟเร็วขึ้น เวลาในการช่วยผู้บาดเจ็บลดลง
น้ำมันหรือแก๊สคุ้มค่ากว่ากัน
สิ่งสำคัญที่ทำให้หลายคนนำรถไปติดแก๊สคือคิดว่า “ติดแก๊สแล้วคุ้มกว่าเติมน้ำมัน” แต่ในความจริงแล้ว แค่ราคาต่อหน่วยแก๊สถูกกว่าเท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงคุ้มค่าในด้านอื่น ๆ อย่างระยะทางที่สามารถวิ่งได้แล้ว
น้ำมันสามารถวิ่งได้ไกลกว่าแก๊สถึง 200 กิโลเมตร (กรณีเติมเต็มถัง) หรือหากเปรียบเทียบราคาโดยเฉลี่ยน้ำมัน E20 จะแพงกว่าแก๊ส NGV ประมาณ 50% – 60% ทำให้รถสาธารณะส่วนใหญ่ เลือกใช้เพราะยิ่งวิ่งไกลก็ยิ่งได้เงิน ในขณะที่ผู้ใช้ปกติไม่ได้เงิน
ถ้าให้มองอีกมุมคือ รถขับขี่ปกติจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาต่างจากรถสาธารณะ คือ รถใช้เองจะมองถึงคุณภาพมากกว่า เช่น ความคุ้มค่าของน้ำมัน ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ระยะยาว การขายต่อ
ขณะที่รถสาธารณะมองถึงปริมาณคือ ราคาที่ถูกกว่า เพราะถึงจะได้ระยะทางที่น้อยกว่าเติมน้ำมัน แต่หากเทียบรายได้ต่อกิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมกับส่วนต่างน้ำมันไว้แล้วก็คุ้มค่ากว่า
สรุป
ก่อนที่คุณจะนำรถไปติดแก๊ส อยากให้ตัดสินใจดี ๆ เพราะการติดแก๊สค่อนข้างส่งผลรอบด้านเกี่ยวกับรถยนต์ทั้งตัวเครื่อง สมรรถภาพรถ ราคาในอนาคต และอีกข้อที่ไม่ค่อยมีคนรู้คือ ถ้าจะนำรถไปติดแก๊สต้องแจ้งกับทางบริษัทประกันรถยนต์ของตัวเองด้วย เพราะแก๊สทำให้อุบัติเหตุนั้นมีความรุนแรงกว่าการใช้น้ำมัน ซึ่งเกี่ยวกับความคุ้มครองทั้งรถและคนขับ ทำให้ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ ต้องคิดค่าความเสี่ยงนี้ด้วย คุณจึงต้องมีความคุ้มครองที่สูงขึ้นหากใช้รถติดแก๊ส
จากข้อมูลทั้งหมด ลองชั่งน้ำน้ำหนักดูนะครับ ประหยัดค่าน้ำมันลงมาใช้แก๊ส แต่ค่าบำรุงดูแลแก๊สก็เพิ่มขึ้นในขณะที่น้ำมันไม่มี คุณจะเลือกอะไร
ที่มา: