เลือกซื้อคาร์ซีทอย่างไร ลูกน้อยปลอดภัย คุณแม่อุ่นใจ
ปัจจุบันจากข่าวสารเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับเด็กเล็ก อาจจะมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย แต่ส่วนหนึ่งที่ปลอดภัย เพราะเด็กเหล่านั้นอยู่ในคาร์ซีท เราเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมรักและเป็นห่วงลูกน้อย แต่ในความเป็นจริงหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา อ้อมกอด ก็ไม่สามารถปกป้องเด็กได้
ดังนั้นคาร์ซีทจึงเป็นอุปกรณ์เสริมชิ้นสำคัญที่จะช่วยเสริมความปลอดภัยและเพื่อป้องกันเหตุร้ายให้กับลูกๆ ของคุณ โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก
แต่หลายๆ คนเองก็ไม่ได้คุ้นเคยกับการเลือกซื้อคาร์ซีท มาติดตั้งในตัวรถกันมากนัก บทความนี้ประกันติดโล่จึงขอนำเสนอวิธีการเลือกซื้อคาร์ซีทมาให้ เพื่อการเลือกซื้อที่ถูกต้องเหมาะสม เพิ่มความปลอดภัยกับลูก ๆ ของคุณ
คาร์ซีทดีอย่างไร? ทำไมควรติดตั้งเอาไว้ในรถ
Car Seat (คาร์ซีท) คือ เบาะนิรภัยสำหรับเด็ก เบาะที่นั่งจะถูกออกแบบให้มีโครงสร้างที่ดูดซับและกระจายแรงกระแทกไปยังชิ้นส่วนโครงสร้างเบาะ และเข็มขัดนิรภัยนั้นถูกออกแบบมาคล้ายกับของผู้ใหญ่ แตกต่างกันคือเข็มขัดนิรภัยจะเป็นแบบ 5 จุด แบบนักแข่งรถ เมื่อเกิดอุบัติเหตุช่วยเสริมความปลอดภัยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
คาร์ซีทจะมีลักษณะคล้ายเบาะเสริมที่ติดตั้งแยกออกมาต่างหากจากตัวรถ ซึ่งจะมีดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัดกว่าเพื่อรับกับสรีระของเด็ก ช่วยรองรับในส่วนคอ ศีรษะ และหลังของเด็ก ป้องกันการกระทบกระเทือนไปยังสมองและกระดูกสันหลังขณะประสบอุบัติเหตุ
ร่างกายของเด็กๆ นั้นยังมีความบอบบางค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกับเด็กเล็กและทารก แม้จะเกิดอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนร่างกายเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของพวกเขาในอนาคตได้
เลือกคาร์ซีทอย่างไรให้ลูกน้อยปลอดภัยยามขับรถ
ทีนี้เรามาดูกันว่า ในการเลือกซื้อคาร์ซีทนั้น ควรเลือกซื้อแบบไหนลูกน้อยของคุณจึงจะปลอดภัยที่สุด โดยมีวิธีการเลือกตามปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
-
เลือกประเภทให้เหมาะกับตัวลูก
คาร์ซีทนั้นถูกจำแนกออกเป็นหลายประเภทตามอายุและขนาดตัวของเด็ก เพื่อให้เหมาะสมและรองรับสรีระของเด็กได้ โดยคุณสามารถเลือกซื้อคาร์ซีทแต่ละช่วงอายุหรือวัยของลูก ๆ ได้ ดังนี้
-
คาร์ซีทแบบหันหน้าไปด้านหลังรถ (Rearward-facing baby seat)
เป็นคาร์ซีทแบบตัวเบาะหันหน้าเข้าหารถ เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดไปจนถึงอายุ 15 เดือน เนื่องจากเด็กในช่วงวัยนี้อวัยวะทั่วร่างยังมีความอ่อนแอและเปราะบางสูง แม้แต่แรงกระแทกนิดเดียวก็สามารถทำให้บาดเจ็บร้ายแรงได้ ซึ่งคาร์ซีทประเภทนี้จะช่วยรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
-
คาร์ซีทแบบผสม (Combination seat)
คาร์ซีทแบบผสมจะคล้ายๆ กับคาร์ซีทแบบหันไปด้านหลัง แต่จะสามารถทำได้ทั้งการนั่งหันหน้าและหันหลัง โดยจะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย จึงเหมาะตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงอายุ 6 ปี แม้ว่าสำหรับเด็กทารกแล้วตัวเบาะอาจจะมีขนาดใหญ่ไปสักเล็กน้อย แต่ก็สามารถใช้ได้ไปอีกหลายปีเลยทีเดียวนั่นเอง
-
คาร์ซีทแบบหันไปด้านหน้ารถ (Forward-facing child seat)
เป็นคาร์ซีทรูปแบบมาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 9 เดือนไปจนถึง 11 ปี เป็นคาร์ซีทมาตรฐานที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป
-
คาร์ซีทแบบมีพนักพิง (High-backed Booster Seat)
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4-12 ปี เป็นคาร์ซีทในรูปแบบมีพนักพิงด้านหลังสำหรับเด็กที่เริ่มโตแล้ว จะทำให้เด็กรู้สึกนั่งได้สบายกว่าแต่ก็ยังคงความปลอดภัย
-
เบาะนั่งเสริม (Booster Seat)
เบาะนั่งเสริมนั้นเหมาะสำหรับเด็กที่ไม่สามารถนั่งในคาร์ซีทได้แล้ว จะมีลักษณะคล้ายกับเบาะนั่งเสริมแบบปกติมีพนักพิงด้านหลัง ส่วนมากจะใช้สำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไปจนกว่าจะสามารถคาดเข็มขัดนิรภัยได้
-
ต้องมีการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย
ด้วยความที่คาร์ซีทนั้นมีผู้ผลิตมากมายหลายเจ้า เพราะฉะนั้นถ้าต้องการสินค้าที่มีคุณภาพจึงจำเป็นจะต้องสังเกตตรารับรองมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44/04 โดยจะมีลักษณะเป็นป้ายแถบสีส้ม ซึ่งเป็นเครื่องหมายยืนยันมาตรฐานสำหรับคาร์ซีทโดยเฉพาะ จึงจะมั่นใจได้ว่าแม้เกิดอุบัติเหตุคาร์ซีทตัวนี้ก็สามารถช่วยป้องกันความปลอดภัยให้กับลูกน้อยของคุณได้
ติดตั้งคาร์ซีทไว้ตรงไหนปลอดภัยที่สุด
ตำแหน่งติดตั้งคาร์ซีทที่ดีที่สุดก็คือเบาะหลัง โดยปกติเรามักจะเห็นหลายๆ คนติดคาร์ซีทเอาไว้ด้านหน้าเพื่อให้ง่ายต่อการเลี้ยงดูลูก แต่ด้านหน้านั้นจะมี Airbag ติดตั้งอยู่ ซึ่งถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ Airbag อาจจะทำอันตรายต่อเด็กที่อยู่ในคาร์ซีทได้ เพราะฉะนั้น การติดตั้งคาร์ซีทเอาไว้ด้านหลังเบาะจึงจะดีที่สุด
สรุป
ความปลอดภัยในการเดินทางเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพื่อความปลอดภัยในตัวลูกน้อยแล้ว ควรให้ลูกนั่งในคาร์ซีทตลอดเวลาในการขับขี่รถยนต์ และอย่าลืมใส่ใจด้านทรัพย์สินกันด้วย เพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่สร้างอาการบาดเจ็บ และความเสียหายต่อตัวรถได้ ซึ่งอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมรักษาเป็นเงินก้อนใหญ่ อย่าลืมมองหาประกันภัยรถยนต์ติดรถเอาไว้เพื่อบรรเทาความเสียหายในส่วนนี้กันด้วยนะครับ