รถประหยัดน้ำมัน 2023 ราคาถูก ตอบโจทย์ทุกการขับขี่
ปัจจุบันหลายคนให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น อีกทั้งราคาน้ำมันก็แพงขึ้นเรื่อย ๆ แบรนด์รถยนต์จึงพัฒนารถยนต์ออกมาเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้รถให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงในตลาดรถยนต์เป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่หลายคนรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง รถประหยัดน้ำมันจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง ประกันติดโล่จะมาแนะนำรถยนต์รุ่นไหนประหยัดน้ำมันที่สุด รุ่นไหนได้รับความนิยมประจำปี 2023
10 รถประหยัดน้ำมัน 2023 ช่วยให้คุณประหยัดได้จริง
รถประหยัดน้ำมันรุ่นใหม่ ๆ มักจะมีตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแสดงให้เห็นบนแผงหน้าปัดอยู่แล้ว และจะแสดงให้เห็นแบบ Real Time ตัวเลขที่บอกว่ารถคันนั้นกินน้ำมันไปเท่าไหร่ เป็นการบอกปริมาณน้ำมันที่ใช้ต่อระยะทาง โดยจะมีสูตรคำนวณเบื้องต้นคือ ระยะทางที่เดินทาง (กม.) หารจำนวนน้ำมันที่ลดลงไป (ลิตร) ก็จะทำให้รู้ว่ารถคันนั้นกินน้ำมันเท่าไหร่ เช่น ระยะทาง 50 กม. น้ำมันลดลงไป 2 ลิตร เท่ากับว่าน้ำมัน 1 ลิตร รถคันนี้สามารถใช้เดินทางได้ถึง 25 กม. มาดูกันดีกว่าครับว่ารถยนต์รุ่นไหนน่าใช้ รถยนต์รุ่นไหนประหยัดน้ำมันที่สุด
1. Mitsubishi Attrage
Mitsubishi Attrage 2023 เป็นรถยนต์ Eco car ขนาดเล็กราคาไม่เกิน 5 แสนบาทเท่านั้น การดีไซน์จะคล้ายกับ Mirage มาพร้อมคุณสมบัติหลัก 3 อย่างที่คุ้มค่าสุด ๆ ทั้งในเรื่องการประหยัดน้ำมันสูง ความคล่องตัวในการขับขี่ และห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร โดยจะมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Invecs-III CVT รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20
Nissan Almera ราคา : เริ่มต้น 494,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
2. Toyota Yaris Ativ
Toyota Yaris Ativ 2023 รถเก๋งประหยัดน้ำมันที่มาพร้อมห้องโดยสารกว้างขวาง เครื่องยนต์และเกียร์ทนทานตามสไตล์ของ Toyota ใครกำลังมองหารถยนต์ราคาถูกประหยัดน้ำมันใช้งานได้นาน ๆ ต้องรุ่นนี้เลยครับ มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 3 โหมดทั้ง ECO, Normal และ Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 1,197 ซีซี. Dual VVT-iE ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมโปรแกรมทดเกียร์ Sequential Shift ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20
Toyota Yaris Ativ ราคา : เริ่มต้น 549,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
3. Nissan Almera
Nissan Almera 2023 เป็นรถยนต์ Eco car ราคาไม่เกิน 6 แสนที่หลายคนตามหาอย่างแน่นอน มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Next-generation V-motion กับเทคโนโลยี NissanConnect Services สามารถสั่งการฟังก์ชั่นภายในรถได้ทุกที่ ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT พร้อม D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้า มีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) จึงเป็นรถประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Nissan Almera ราคา : เริ่มต้น 549,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
4. Suzuki Swift
Suzuki Swift 2023 เป็นรถยนต์ Eco car ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะสาว ๆ โดดเด่นทั้งในเรื่องเป็นรถประหยัดน้ำมัน ขนาดกะทัดรัด และเหมาะกับการขับในเมืองสุด ๆ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ CVT เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20 Suzuki Swift 2023 จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของรถยนต์ราคาถูกประหยัดน้ำมันที่คุณไม่ควรพลาด
Suzuki Swift ราคา : เริ่มต้น 567,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 23 กิโลเมตร/ลิตร
5. Mazda2
Mazda2 2023 รถเก๋งประหยัดน้ำมันที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับรถยนต์ Eco car รุ่นอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องช่วงล่างที่ขับสนุก ยึดเกาะดีเยี่ยม ขับขี่ได้อย่างคล่องตัวในเมืองกรุง มีให้เลือกทั้งแบบ Sedan และ Hatchback ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
Mazda2 ราคา :
เครื่องยนต์เบนซินราคาเริ่มต้น 599,000 บาท
เครื่องยนต์ดีเซลราคาเริ่มต้น 720,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน :
เครื่องยนต์เบนซิน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล 26.3 กิโลเมตร/ลิตร
6. Honda City e:HEV
Honda City e:HEV 2023 รถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันควบคู่ไปกับพลังงานไฟฟ้า (ระบบฟูลไฮบริด e:HEV) โดยจะทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ e-CVT โดยระบบจะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติ 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) จึงเป็นรถเก๋งประหยัดน้ำมันที่มาแรงสุด ๆ ในราคาที่แสนจะประหยัด
Honda City e:HEV ราคา : เริ่มต้น 769,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 27.8 กิโลเมตร/ลิตร
7. Honda HR-V e:HEV
Honda HR-V e:HEV ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING จึงเป็นรถยนต์ที่เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่กำลังวางแผนซื้อรถครอบครัว และด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ใช้พลังงานน้ำมันควบคู่ไปกับพลังงานไฟฟ้า จึงเหมาะกับคนที่กำลังมองหารถ SUV ประหยัดน้ำมันสุด ๆ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ CVT เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20
Honda HR-V e:HEV ราคา : เริ่มต้น 979,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 25.6 กิโลเมตร/ลิตร
8. Toyota Corolla Cross
Toyota Corolla Cross อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังมองหารถ SUV ประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการพัฒนาแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย (Nickel Metal Hydride) ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น จึงช่วยประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor จะให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20
Toyota Corolla Cross ราคา : เริ่มต้น 989,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
9. Toyota C-HR
สำหรับใครที่ชอบรถ SUV ประหยัดน้ำมันแต่ไม่อยากได้รถคันใหญ่มากนัก ขอแนะนำ Toyota C-HR 2023 เป็นรถ SUV ขนาดเล็ก 5 ที่นั่ง แต่ยังคงความเท่ ความสปอร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ หลายคนได้ลองขับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วงล่างระดับเดียวกับรถยุโรป เป็นรถระบบไฮบริดรุ่นใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT
Toyota C-HR ราคา : เริ่มต้น 979,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 24.4 กิโลเมตร/ลิตร
10. Haval Jolion Hybrid
Haval Jolion Hybrid ของเครือ GWM Thailand เป็นรถ SUV ประหยัดน้ำมันที่กำลังมาแรงไม่แพ้แบรนด์ดังในตลาด เครื่องยนต์ระบบไฮบริดทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติแบบ DHT รองรับการขับเคลื่อนได้อย่างหลากหลาย มาพร้อมเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ของฮาวาล โจไลอ้อน มีระบบขับขี่ทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ Standard, Sport, ECO และ Rain
Haval Jolion Hybrid ราคา : เริ่มต้น 879,000 บาท
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 23.8 กิโลเมตร/ลิตร
สรุป รถประหยัดน้ำมัน 2023
สภาพการจราจรในเมืองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถกินน้ำมันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะเลี่ยงจากปัญหานี้ ทำได้ดีที่สุดคือ เลือกซื้อรถยนต์ที่จะช่วยประหยัดพลังงานหรือประหยัดน้ำมันให้ได้มากที่สุด พร้อมกับการขับขี่ที่ถูกต้องซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกทางหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่มีการเหยียบคันเร่งก็จะยิ่งทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง หากถามว่ารถยนต์รุ่นไหนประหยัดน้ำมันที่สุด ให้ดูที่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ยิ่งอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเท่าไหร่ เท่ากับว่ารถคันนั้นเป็นรถประหยัดน้ำมันมากเท่านั้น เมื่อจำเป็นต้องใช้รถทุกวันแบบนี้ อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำประกันรถยนต์ เพื่อช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook