เปิดแอร์นอนในรถอันตรายไหม จอดรถนอนยังไงให้ปลอดภัย
เมื่อต้องขับรถทางไกลอาจทำให้รู้สึกง่วง เหนื่อยล้า การจอดรถพักผ่อนระหว่างทาง หรือบางคนเปิดแอร์นอนในรถไปเลย ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการฝืนทนขับรถต่อไป เพราะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ แต่การหลับในรถมีอันตรายแฝงอยู่ ถ้าขาดความระมัดระวัง และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง ประกันติดโล่จะมาแนะนำวิธีจอดรถนอนยังไงให้ปลอดภัย ตั้งแต่การเลือกสถานที่จอด การเตรียมความพร้อมก่อนจอดรถนอน และข้อควรระวังต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องรู้
เปิดแอร์นอนในรถอันตรายไหม
การสตาร์ทรถนอน เปิดแอร์ ปิดกระจกหน้าต่างแบบมิดชิด ทำให้อากาศภายในรถไม่ถ่ายเท เนื่องจากระบบปรับอากาศจะดูดอากาศจากภายนอกตัวรถ รวมถึงควันจากท่อไอเสียเข้ามาหมุนเวียนในห้องโดยสาร ส่งผลให้มีการสะสมของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในปริมาณที่มาก เมื่อเรานอนในรถไม่เปิดกระจก แล้วสูดดมก๊าซพิษเข้าไปแบบไม่รู้ตัว ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะไปจับกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง แทนที่การจับกับออกซิเจนที่เราจำเป็นต้องใช้ในการหายใจ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนอย่างรวดเร็ว อาจทำให้หมดสติ สมองขาดออกซิเจน และร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยถ้าสูดดมในปริมาณเกินไป
4 วิธีจอดรถนอนให้ปลอดภัยต่อตัวเองและผู้อื่น
ถ้าจำเป็นต้องเปิดแอร์นอนในรถจริง ๆ ควรหาวิธีการและขั้นตอนที่ถูกต้องในการจอดรถ เตรียมความพร้อมก่อนจะนอนให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเองและรถของคุณ รวมถึงต้องไม่สร้างความรำคาญ หรือส่งผลกระทบต่อผู้อื่น พื้นที่สาธารณะ หรือสิ่งแวดล้อมโดยรอบด้วย
1. เลือกจอดรถนอนในที่โล่ง
การเลือกจอดรถในพื้นที่โล่ง ช่วยให้การระบายอากาศภายในตัวรถเป็นไปได้อย่างสะดวก เพราะถ้าจอดในพื้นที่แคบ มีสิ่งกีดขวาง หรือจอดในพื้นที่ที่มีรถสัญจรผ่านไปมา นอกจากจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุแล้ว อากาศจะถ่ายเทได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้มีการสะสมของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และมีอากาศเสียภายในรถเพิ่มขึ้น การหาพื้นที่โล่งก่อนจอดรถนอนจึงเป็นสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการสะสมของก๊าซพิษภายในรถ
2. ลดกระจกแต่พอดี
การลดกระจกลงมาเล็กน้อย เป็นวิธีที่จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น ไม่ควรลดกระจกลงมามากเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการเกิดโจรกรรมได้ การลดกระจกลงมาแต่พอดี จะทำให้อากาศบริสุทธิ์จากภายนอกสามารถแลกเปลี่ยน หมุนเวียนเข้าออกจากห้องโดยสารได้ ช่วยระบายก๊าซเสียต่าง ๆ ออกไป พร้อมกับรับอากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่ จึงลดความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
3. ปรับแอร์ให้เหมาะสม
การปรับโหมดแอร์ให้สามารถรับอากาศจากภายนอกเข้ามาได้นั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อต้องเปิดแอร์นอนในรถได้อย่างมาก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น ช่วยระบายก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซพิษอื่น ๆ ออกจากห้องโดยสารได้อย่างต่อเนื่อง และควรตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะประมาณ 25-27 องศา ไม่ควรเปิดแอร์เย็นจนเกินไป
4. ตั้งนาฬิกาปลุก
เมื่อขับรถไปนาน ๆ แล้วรู้สึกง่วง เหนื่อยล้า การจอดรถแวะงีบก่อนออกเดินทางต่อ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ แต่ก่อนจะนอนหลับควรตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที ไม่ควรนอนในรถติดต่อกันหลายชั่วโมง นอนให้พอหายง่วงเท่านั้น เพื่อให้ร่างกายรู้สึกได้พักผ่อน มีความกระปรี้กระเปร่า และเป็นช่วงเวลาที่พอให้คุณได้สังเกตอาการผิดปกติของร่างกายได้ทันท่วงที ถ้ามีการรับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป เช่น อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ หรือเวียนศีรษะ
ประกันติดโล่แนะนำ ตรวจสภาพรถเป็นประจำ ลดอันตรายจากการนอนในรถได้
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในรถได้มากกว่าปกติ คือ สภาพรถยนต์ที่ไม่ได้รับการตรวจเช็ค และบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรถเก่าที่มีอายุการใช้งานนาน มีโอกาสเกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์จากการทำงานของเครื่องยนต์และระบบท่อไอเสีย ส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ออกมามากกว่ารถใหม่ หรือรถที่มีการตรวจสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ
สรุป เปิดแอร์นอนในรถ ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ
การสตาร์ทรถนอน แวะงีบเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสดชื่น อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเมื่อขับรถทางไกล แต่การเปิดแอร์นอนในรถควรคำนึงเรื่องความปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับอันตราย และลดความเสี่ยงจากการโจรกรรม การทำประกันรถยนต์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความสบายใจให้กับคุณได้ หมดกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่ายทั้งในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือการโจรกรรม ประกันรถยนต์จากประกันติดโล่ เราให้คุณผ่อนค่าเบี้ยประกัน 0% ได้นาน 10 เดือน และมีประกันให้เลือกเปรียบเทียบกว่า 15 บริษัท
ที่มา: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์