เมนิเฟส (Manifest) กฎแรงดึงดูด จะได้อย่างที่คิดจริงไหม?

มีใครเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับ Manifest กฎแรงดึงดูดกันบ้างไหม? กฎแห่งการสร้างภาพความคิดในหัว และดึงดูดสิ่งสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นจริง หากคิดๆ ดูแล้วกฎแห่งแรงดึงดูด ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องงมงาย แต่ก็มีหลายเหตุการณ์บนโลกใบนี้ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งการ Manifest แท้จริงแล้วสิ่งนี้คืออะไร วันนี้เราจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีแรงดึงดูด พร้อมบอกวิธีที่ทำให้การเมนิเฟสเกิดขึ้นได้จริง ตามมาดูกันเลย

เมนิเฟส (Manifest) กฎแรงดึงดูดคืออะไร?

คำว่ากฎแรงดึงดูด คำนี้มีถูกนิยามไว้ว่า “ถ้าคุณคิดดีจะดึงดูดแต่สิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณ” ส่วนคำว่า Manifest หรือ Manifestation คือการจินตนาการภาพความคิดให้ออกมาชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยอาศัยความหวัง ความเชื่ออันแรงกล้า และการลงมือทำอย่างตั้งใจ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ภาพที่คุณคิดมีโอกาสประสบความสำเร็จ 

ซึ่งใครที่เข้าใจความหมายของกฎแห่งแรงดึงดูดแล้ว และอยากจะ Manifest สิ่งที่คุณควรมีเลยนั่นก็คือความมุ่งมั่น ความตั้งใจทำในสิ่งที่จินตนาการหรือที่หวังเอาไว้ รับรองเลยว่าไม่ว่าภาพที่คุณคิดจะยากแค่ไหน ก็ล้วนสามารถเกิดขึ้นได้จริงแน่นอน 

5 วิธีทำให้การ Manifesting เกิดขึ้นได้จริง

วิธีทำ Manifesting

ใครที่เห็นคนอื่นพูดถึงเรื่อง Manifest กฎแรงดึงดูด ทำแล้วได้ตามที่หวัง ทำแล้วประสบความสำเร็จ และอยากลองเมนิเฟสดูบ้าง แต่ไม่รู้ต้องทำยังไง คุณสามารถดู 5 วิธีทำให้การ Manifesting เกิดขึ้นได้จริงได้ดังนี้

1. เชื่อว่าสิ่งที่คุณคิดจะเกิดขึ้นจริง

ขั้นตอนแรกในการ Manifesting คือการเชื่อว่าเรื่องที่คุณคิดจะเกิดขึ้นจริง ซึ่งคุณจะต้องมีภาพชัดเจนในหัว ว่าคุณต้องการอะไร หวังอะไร ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน การเงิน หรือขอเรื่องสุขภาพ ยิ่งถ้าคุณมีเป้าชัดเจนมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะทำให้สิ่งที่คุณคาดหวังเกิดขึ้นจริงตามกฎแห่งแรงดึงดูดก็ย่อมมีมาก เพราะคุณจะรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้สิ่งที่หวังประสบความสำเร็จ

2. สร้างความเชื่อมั่น ด้วยการจดบันทึกทุกวัน

ต่อมาคือการสร้างความเชื่อมั่นด้วยการจดบันทึกทุกวัน โดยขั้นตอนนี้สิ่งที่คุณควรทำคือการจินตนาการว่าในวันที่คุณประสบความสำเร็จ หรือถ้าสิ่งที่คุณหวังไว้เกิดขึ้นจริงจะเป็นอย่างไร เช่น ถ้าคุณเป็นพนักงานออฟฟิศที่ Manifest กฎแรงดึงดูด ไว้ว่าในอีก 1 ปีข้างหน้าจะต้องเลื่อนขั้นไปอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น คุณก็จะต้องรู้ว่าในวันนั้น คุณจะเลือนขั้นไปอยู่ในตำแหน่งอะไร และหน้าที่ของคุณในวันนั้นเป็นยังไง แตกต่างกับวันนี้หรือไม่

3. ใช้คำพูดที่สื่อถึงความเป็นไปได้

พยายามบอกกับตัวเองโดยการใช้คำที่เป็นเชิงบวก หรือคำสื่อความหมายว่าสิ่งที่คุณหวังไว้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เช่น ถ้าคุณอยากมีอยากร่ำรวย คุณก็แค่พูดชื่นชมตัวเองว่า “เดือนนี้ฉันมีเงินเก็บเยอะขึ้นนะ ดีจังเลย” หรือ “เธอเก่งมาก เดือนนี้มีเงินเก็บมากกว่าเดือนก่อนอีก” สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้รับแต่พลังบวก และทำให้คุณมีพลังงานที่ดีในการใช้ชีวิต

4. หมั่นขอบคุณและหยุดด้อยค่าตัวเอง

ทฤษฎีแรงดึงดูด อีกข้อหนึ่งที่สำคัญ คือการที่คุณขอบคุณตัวเองบ่อยๆ เปรียบเสมือนการเคารพและรักตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น และสิ่งที่ไม่ควรทำคือการส่งพลังงานลบ หรือการด้อยค่าตัวเองด้วยการพูดว่าตัวเองไม่ดี ตัวเองไม่เหมาะสมกับสิ่งที่ทำอยู่ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง และอาจจะถึงขั้นโทษตัวเองทุกครั้งเมื่อมีการทำพลาดในบางเรื่อง

5. รอจังหวะและเวลา

สำหรับการ Manifest กฎแรงดึงดูดในแต่ละครั้ง แม้คุณจะมีการกำหนดเวลาไว้ว่าใน 1 ปีฉันจะต้องได้เลื่อนตำแหน่ง ในอีก 6 เดือนฉันจะต้องประสบความสำเร็จให้ได้ แต่ถ้าหากสิ่งที่หวังมันยังไม่เกิดขึ้น เราขอแค่ให้คุณเชื่อและมุ่งมั่นตั้งใจทำในสิ่งที่หวังต่อไปโดยไม่ย่อท้อ เราเชื่อว่าสักวันคุณจะต้องประสบความสำเร็จ และสิ่งที่ Manifest ไว้จะเกิดขึ้นได้แน่นอน

ข้อดีและข้อเสียของการเมนิเฟส (Manifest)

ข้อดี-ข้อเสีย Manifest

หลายคนอาจคิดว่า Manifest กฎแรงดึงดูด จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่จริงๆ แล้วการทำ Manifesting ก็มีข้อเสียเช่นกัน หากสิ่งที่คุณหวังมันไม่สมเหตุสมผล โดยคุณสามารถดูข้อดีและข้อเสีย ได้ดังนี้

ข้อดีของการ Manifest

  • ทำให้คุณตั้งใจทำในสิ่งที่หวังมากยิ่งขึ้น
  • เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง เมื่อได้ผลลัพธ์ตามที่หวัง
  • ช่วยให้คุณมีทัศนคติที่ดี มีแต่พลังงานบวกเข้ามา
  • กฎของแรงดึงดูด ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้

ข้อเสียของการ Manifest

  • สร้างความผิดหวัง หากไม่ได้ตามที่หวัง
  • ถ้าตั้งเป้าไว้สูงเกินไป อาจทำให้คุณโทษตัวเอง
  • มีแต่คิดแต่ไม่ลงมือทำ อาจนำมาสู่ความผิดหวัง
  • อาจทำให้คุณคาดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก

สรุป กฎแรงดึงดูด Manifest ทำแล้วได้ผลจริงไหม?

แม้ว่าการเมนิเฟสในหลายๆ ครั้งจะเกิดขึ้นจริง แต่ก็มีอีกหลายๆ ครั้งที่ทำตามกฎแรงดึงดูดแล้วไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่เราเชื่อ ซึ่งการ Manifest กฎแรงดึงดูดนั้นก็เปรียบเสมือนการสร้างความมั่นใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเราเอง เพื่อให้เรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำบางสิ่งบางให้ประสบผลสำเร็จตามที่เราคิด 

โดยการจะทำให้ Manifest เกิดขึ้นได้จริง หากคุณแค่เชื่อหรือแค่หวัง แน่นอนว่าการจะทำให้สิ่งที่คิดประสบความสำเร็จล้วนเกิดขึ้นได้ยากมากๆ แต่การลงมือทำอย่างตั้งใจและศรัทธาในสิ่งที่เชื่อต่างหากที่จะทำให้ทุกอย่างที่คุณต้องการนั้นเกิดขึ้นจริงได้ ใครเข้าใจคอนเซ็ปต์ของคำๆ นี้แล้ว อย่าลืมไปลองทำตามกันนะ ไม่ว่าจะเป็นการ manifest ความรัก การงาน การเงิน สุขภาพ ก็สามารถทำได้หมด ไม่แน่สิ่งที่คุณหวังอาจจะเกิดขึ้นได้จริงทุกอย่างเลยก็ได้ 

ที่มา: Ananda



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

บทความแนะนำ
  • ข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย ล่าสุด 2567
    รวมเฉลยข้อสอบใบขับขี่ 2566 อย่างละเอียด ไม่อยากสอบหลายรอบมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบจริงกับแนวข้อสอบใบขับขี่ภาคทฤษฎี 50 ข้อพร้อมเฉลย
    231,764
  • รถเป็นรอยขูดทำไงดี เคลมประกันชั้น 1 ได้ไหม จ่ายค่าเสียหายส่วนแรกกี่บาท
    อยู่ๆ รถสุดที่รักก็โดนขูดเป็นรอยลึก หาตัวคนผิดก็ไม่ได้ คู่กรณีก็ไม่มี แล้วแบบนี้ประกันรถยนต์จะรับเคลมไหม ต้องจ่ายค่าทำสีรถใหม่เองหรือเปล่า ทำยังไงได้บ้าง?
    128,583
  • ไม่หลบรถพยาบาลเปิดไซเรน ระวังผิดกฎหมายรถฉุกเฉิน และเจตนาฆ่า!
    รถพยาบาลฉุกเฉินเปิดไฟวับวาบและเปิดเสียงไซเรน คุณควรหลีกทางให้รถพยาบาลแบบด่วนๆ เพราะถ้าฝ่าฝืนทำตัวขวางโลกรู้ไหมว่าผิดกฎหมายรถฉุกเฉิน และมีเจตนาฆ่าด้วย!
    127,943