เช็กสาเหตุรถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น พร้อมวิธีแก้อย่างตรงจุด

สำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ การเจอปัญหารถเร่งไม่ขึ้นเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล โดยเฉพาะเมื่อขับรถอยู่ดีๆ เหยียบคันเร่งไม่ขึ้น อาการนี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ปัญหาเล็กน้อยไปจนถึงความเสียหายที่ต้องซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน บทความนี้ประกันติดโล่จะพาไปทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีแก้ไขอย่างตรงจุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมั่นใจกันครับ

รถเร่งไม่ขึ้นแบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติ

รถเหยียบไม่ขึ้นมีหลายลักษณะที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ เช่น เมื่อเหยียบคันเร่งแล้วรถตอบสนองช้า เครื่องยนต์สะดุด กระตุก หรือไม่มีกำลังในการเร่งเครื่อง บางครั้งอาจมีไฟเตือนที่หน้าปัดแสดงขึ้นมาร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่า ระบบการทำงานของรถกำลังมีปัญหาที่ต้องได้รับการตรวจสอบและแก้ไขครับ

เช็กรถมีปัญหาง่ายๆ ด้วยแผงปัดหน้ารถยนต์

แผงหน้าปัดรถยนต์

แผงหน้าปัดรถยนต์เป็นจุดแรกที่ช่วยบ่งบอกความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับการสังเกตอาการผิดปกติของรถขณะขับขี่ โดยสัญลักษณ์ไฟเตือนต่างๆ จะมีสีที่แสดงระดับความรุนแรงของปัญหา ดังนี้

  • สีเขียว : แสดงสถานะการทำงานปกติของระบบต่างๆ เช่น ไฟหน้า ไฟเลี้ยว หรือระบบครูซคอนโทรล เป็นต้น
  • สีน้ำเงิน : บ่งบอกว่าระบบกำลังทำงานภายใต้การควบคุมของผู้ขับขี่ ไม่ได้เป็นการตั้งค่าจากโรงงาน
  • สีเหลือง : เป็นสัญญาณเตือนให้ตรวจสอบอุปกรณ์บางส่วน แต่ยังสามารถใช้งานรถได้ตามปกติ ควรวางแผนเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ก
  • สีแดง : แสดงถึงปัญหาร้ายแรงที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน ควรหยุดใช้งานรถและนำเข้าตรวจสอบทันที

ถ้าหากตรวจพบสัญลักษณ์ที่ขึ้นสีเหลือง หรือสีแดง ถึงแม้รถยนต์จะยังใช้งานได้อยู่ ก็ควรที่จะนำรถยนต์ไปตรวจหาสาเหตุ และทำการซ่อมบำรุงอย่างเหมาะสม ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์อื่นๆ แล้วทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงได้ครับ

รถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นเป็นเพราะอะไร แก้ไขยังไงดี

สาเหตุรถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น

ขับรถอยู่ดีๆ เหยียบคันเร่งไม่ขึ้น เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง? ประกันติดโล่ได้รวมสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้น พร้อมวิธีแก้ไขอย่างเหมาะสมมาให้แล้ว ตามไปดูกันครับ

1. ไส้กรองอากาศสกปรก

ไส้กรองอากาศทำหน้าที่กรองฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่ห้องเผาไหม้ หากสกปรกหรืออุดตัน จะทำให้อากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ไม่เพียงพอ ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ขาดกำลัง และรถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นได้ครับ

วิธีดูแลไส้กรองอากาศ

ควรทำความสะอาด หรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุก 20,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณใช้รถยนต์ในที่พื้นที่ที่มีฝุ่นมาก อาจต้องเปลี่ยนถี่กว่านี้ ถ้าจะให้ดีที่สุด แนะนำให้ตรวจสอบสภาพไส้กรองอากาศเป็นประจำเมื่อนำรถเข้าเช็กระยะครับ

2. คอยล์จุดระเบิดเสื่อมสภาพ

คอยล์จุดระเบิดเป็นอุปกรณ์ที่สร้างกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงส่งไปยังหัวเทียน เพื่อสร้างประกายไฟในการจุดระเบิดเชื้อเพลิง เมื่อเสื่อมสภาพจะทำให้แรงดันไฟฟ้าไม่เพียงพอ ส่งผลให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์สะดุด และรถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น

วิธีดูแลคอยล์จุดระเบิด

ควรเปลี่ยนคอยล์จุดระเบิดเมื่อครบระยะ 100,000 กิโลเมตร หรือเมื่อพบอาการผิดปกติ เช่น เครื่องยนต์สะดุด รถเร่งไม่ขึ้น หรือเครื่องดับกะทันหัน ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบและเปลี่ยนอะไหล่ให้เรียบร้อย

3. ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงสกปรก

ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกออกจากน้ำมันก่อนเข้าสู่ระบบฉีด เมื่อเกิดการอุดตัน จะทำให้น้ำมันไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้เครื่องยนต์ได้รับน้ำมันไม่เพียงพอ ทำให้รถกระตุกและเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นได้

วิธีดูแลไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะที่คู่มือรถกำหนด โดยทั่วไป แนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 20,000-40,000 กิโลเมตร และควรเติมน้ำมันจากปั๊มที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดความเสี่ยงจากสิ่งปนเปื้อนที่มาพร้อมกับน้ำมัน

4. น้ำมันเครื่องเก่า

น้ำมันเครื่องทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ เมื่อใช้งานนานเกินไปจะเสื่อมสภาพ มีตะกอนสะสม ทำให้การหล่อลื่นไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก สูญเสียกำลัง และรถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นได้ครับ

วิธีดูแลน้ำมันเครื่อง

ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด โดยทั่วไป แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 5,000-10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน และควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพและเกรดตรงตามที่ผู้ผลิตรถแนะนำ

5. หัวเทียนสึกหรอ

หัวเทียนทำหน้าที่สร้างประกายไฟเพื่อจุดระเบิดเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ เมื่อเสื่อมสภาพ หรือสึกหรอ จะทำให้ประกายไฟไม่แรงพอ การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เครื่องยนต์ขาดกำลังและรถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น

วิธีดูแลหัวเทียน

ควรเปลี่ยนหัวเทียนตามระยะที่กำหนด โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40,000-100,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับชนิดของหัวเทียน และควรเลือกใช้หัวเทียนที่มีค่าความร้อนตรงตามที่ผู้ผลิตรถกำหนด

6. ระบบเกียร์มีปัญหา

ระบบเกียร์ที่มีปัญหาอาจเกิดจากน้ำมันเกียร์รั่วซึม คลัตช์เสื่อมสภาพ หรือชุดเกียร์ชำรุด ทำให้การส่งกำลังไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้รถไม่มีกำลังในการเร่งและเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นได้ครับ

วิธีดูแลระบบเกียร์

ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์เป็นประจำ หากพบการรั่วซึมควรรีบซ่อมแซม และเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนด กรณีคลัตช์เสื่อมสภาพ หรือชุดเกียร์ชำรุด ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและดำเนินการซ่อมแซมจะดีที่สุดครับ

7. หัวฉีดน้ำมันอุดตัน

หัวฉีดน้ำมันทำหน้าที่ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ในปริมาณที่เหมาะสม เมื่อเกิดการอุดตันจะทำให้การจ่ายน้ำมันไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ รถกินน้ำมันมากขึ้น และเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นได้ในที่สุด

วิธีดูแลหัวฉีดน้ำมัน

ควรทำความสะอาดหัวฉีดน้ำมันทุก 40,000-60,000 กิโลเมตร หรือเมื่อพบอาการผิดปกติ โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดระบบหัวฉีดที่มีคุณภาพ และควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเชื้อเพลิง

แนวทางการดูแลรถยนต์พื้นฐานที่มือใหม่ทุกคนควรรู้

ดูแลรถยนต์

การดูแลรถยนต์เบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหารถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นและปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้คือแนวทางการดูแลรถที่มือใหม่ควรปฏิบัติครับ

  • ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง : ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องทุกสัปดาห์ และเปลี่ยนถ่ายตามระยะที่กำหนด เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ดูแลระบบระบายความร้อน : ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นและสภาพท่อยางต่างๆ เป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องยนต์ร้อนจัด
  • ตรวจสอบระบบเบรก : หมั่นเช็กระดับน้ำมันเบรก สภาพผ้าเบรก และจานเบรก เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
  • เช็กลมยาง : ตรวจสอบแรงดันลมยางทุกเดือน และสังเกตการสึกหรอของดอกยาง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน
  • ดูแลแบตเตอรี่ : ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่และความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ
  • ทำความสะอาดกระจก : ดูแลให้กระจกบานหน้าสะอาดใส และตรวจสอบใบปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่
  • รักษาความสะอาดภายใน : ทำความสะอาดห้องโดยสารเป็นประจำ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันฝุ่นละอองสะสมที่อาจส่งผลต่อระบบปรับอากาศ
  • ตรวจเช็กระบบไฟ : หมั่นตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรกให้ทำงานได้ตามปกติ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่เวลากลางคืน
  • เช็กระบบปรับอากาศ : สังเกตประสิทธิภาพการทำความเย็น และกลิ่นผิดปกติที่อาจเกิดจากเชื้อรา ควรทำความสะอาดและเปลี่ยนกรองแอร์ตามระยะที่กำหนด

สรุป รถเร่งไม่ขึ้น ป้องกันได้ด้วยการตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำ

อาการรถเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นเป็นปัญหาที่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแล และตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง การทำความสะอาดไส้กรองต่างๆ และการบำรุงรักษาตามระยะที่กำหนด จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถและลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในการขับขี่

นอกจากการดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอแล้ว การทำประกันรถยนต์กับประกันติดโล่ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างอุ่นใจ ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ การซ่อมแซม และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง พร้อมดูแลคุณในทุกเส้นทาง เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากที่สุดครับ

*ผู้ซื้อควรศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์ทุกครั้ง

ที่มา: Cockpit



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สนใจ ประกันรถยนต์

กรอกข้อมูลติดต่อ

นอกจากประกันรถยนต์ อยากได้อะไรเพิ่ม?
การกดส่งข้อมูลแสดงว่าคุณอ่านและรับทราบ
นโยบายความเป็นส่วนตัว เรียบร้อยแล้ว

บทความแนะนำ
  • ข้อสอบใบขับขี่ 2568 พร้อมเฉลย
    ข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลย ล่าสุด 2568
    รวมเฉลยข้อสอบใบขับขี่ 2568 อย่างละเอียด ไม่อยากสอบหลายรอบมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบจริงกับแนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ 50 ข้อพร้อมเฉลย
    332,926
  • รถเป็นรอยขูดทำไงดี เคลมประกันชั้น 1 ได้ไหม จ่ายค่าเสียหายส่วนแรกกี่บาท
    อยู่ๆ รถสุดที่รักก็โดนขูดเป็นรอยลึก หาตัวคนผิดก็ไม่ได้ คู่กรณีก็ไม่มี แล้วแบบนี้ประกันรถยนต์จะรับเคลมไหม ต้องจ่ายค่าทำสีรถใหม่เองหรือเปล่า ทำยังไงได้บ้าง?
    319,508
  • ไม่หลบรถพยาบาลเปิดไซเรน ระวังผิดกฎหมายรถฉุกเฉิน และเจตนาฆ่า!
    รถพยาบาลฉุกเฉินเปิดไฟวับวาบและเปิดเสียงไซเรน คุณควรหลีกทางให้รถพยาบาลแบบด่วนๆ เพราะถ้าฝ่าฝืนทำตัวขวางโลกรู้ไหมว่าผิดกฎหมายรถฉุกเฉิน และมีเจตนาฆ่าด้วย!
    317,444