วางแผนต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน 2568 ต้องอบรมก่อนต่อไหม

อยากต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน? เมื่อใบขับขี่ทุกประเภทหมดอายุ จะต้องไปทำการต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา หลายคนจึงวางแผนเพื่อต่อใบขับขี่ล่วงหน้า อีกทั้งปัจจุบันก็มีช่องทางการต่อใบขับขี่หมดอายุออนไลน์ให้คุณทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยคือ ถ้าจะต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ต้องอบรมไหม? หรือต่อใบอนุญาตขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง? ต้องใช้ใบรับรองแพทย์หรือเปล่า เรามีคำตอบ
ทำไมใบขับขี่ 2 ปี กับใบขับขี่ 5 ปี ถึงมีอายุต่างกัน?
เนื่องจากใบขับขี่มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของรถ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน อย่างกรณีใบขับขี่ ท.2 เป็นใบขับขี่ขนส่งที่ใช้งานได้ทุกประเภท เช่น เอาไว้ใช้ในงานขับรถรับจ้าง หรือใบขับขี่ บ.2 เป็นใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งใบขับขี่ 2 ปี กับใบขับขี่ 5 ถูกจัดให้อยู่ในประเภทใบขับขี่ บ. ซึ่งถ้าใบขับขี่หมดอายุก็ต้องจองคิวออนไลน์เพื่อต่ออายุใหม่อีกครั้ง
แต่ต่อให้จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์เอาไว้แล้ว ในวันจริงที่ได้รับใบขับขี่คุณจะต้องไปที่กรมการขนส่งในกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง หรือสำนักขนส่งประจำจังหวัดเพื่อถ่ายรูปอยู่ดี ดังนั้น เพื่อให้ขั้นตอนทุกอย่างผ่านฉลุย นี่คือข้อมูลที่ประกันติดโล่สรุปมาให้แล้วเกี่ยวกับการต่อใบขับขี่ ดังนี้
ใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปี ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน?
ใบขับขี่ 2 ปี เป็นใบขับขี่รถยนต์ชนิดชั่วคราว น่าจะเป็นใบขับขี่ใบแรกในชีวิตของใครหลายคน มีอายุการใช้งานแค่ 2 ปีและคิดค่าธรรมเนียมถูกที่สุด หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือ ใบขับขี่ฝึกหัด พอใช้ไประยะหนึ่ง คุณสามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าเพื่อเลื่อนขั้นเป็นใบขับขี่ 5 ปีได้เลย
ใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีต่อล่วงหน้าได้
สามารถจองคิวออนไลน์เพื่อต่อใบขับขี่ก่อนหมดอายุ 6 เดือนหรือ 180 วัน อย่าปล่อยให้หมดอายุแล้วนำไปขับขี่นะครับ เพราะจะผิดกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับ 2,000 บาทตามมาตรา 66
ต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีใช้เอกสารอะไรบ้าง?
- ใบขับขี่ใบเดิม
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
ใครที่สงสัยว่า ต่อใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี ใช้ใบรับรองแพทย์ไหม อย่าลืมเตรียมใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือนไปให้เรียบร้อยด้วยนะครับ
ต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีต้องทดสอบอะไรบ้าง?
หลังจากที่ยื่นเอกสารที่กรมการขนส่งไปแล้ว ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร หลังจากนั้นจะเป็นการทำแบบทดสอบร่างกาย และขั้นตอนสุดท้ายคือการถ่ายรูปและรับบัตร
- ทดสอบการมองเห็น (สีเขียว เหลือง แดง)
- ทดสอบสายตาลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (การเหยียบเบรครถยนต์)
ต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปี ต้องอบรมไหม?
การต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปีไม่ต้องอบรมอะไรเพิ่มเติมเลย แต่หากใบขับขี่หมดอายุไปแล้ว 1-3 ปีขึ้นไป อยากต่อใบขับขี่ล่วงหน้าออนไลน์ต้องอบรม ดังนี้
- ถ้าใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่ถึง 3 ปี ผู้ที่จะต่อใบขับขี่ต้องอบรม 2 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่
- ถ้าใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ที่จะต่อใบขับขี่ต้องอบรม 2 ชั่วโมง สอบข้อเขียนและสอบขับรถใหม่
ใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน?
สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่แบบ 5 ปี หรือใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป ที่ได้ใช้ใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราวแบบ 2 ปีจนครบอายุการใช้งานแล้ว มาดูกันว่า การต่ออายุใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล 5 ปี สามารถต่อก่อนล่วงหน้าได้เท่าใด เพื่อที่คุณจะได้วางแผนไปต่อใบขับขี่ล่วงหน้าในทุกๆ 5 ปี
สำหรับใครที่สงสัยว่า ใบขับขี่ตลอดชีพยังมีอยู่ไหม? คำตอบคือ ไม่มีแล้วนะครับ เพราะกรมการขนส่งทางบกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2546 แล้ว
ใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีต่อล่วงหน้าได้
เมื่อจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ และทำการอบรมใบขับขี่ออนไลน์เรียบร้อยแล้ว โดยคุณสามารถจองคิวออนไลน์เพื่อต่อใบขับขี่ก่อนหมดอายุ 6 เดือนหรือ 180 วันเช่นกัน อย่าปล่อยให้หมดอายุแล้วนำไปขับขี่นะครับ เพราะจะผิดกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มีโทษปรับ 2,000 บาทตามมาตรา 66
ต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีใช้เอกสารอะไรบ้าง?
- ใบขับขี่ใบเดิม
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
ใครที่สงสัยว่า ต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี ใช้ใบรับรองแพทย์ไหม อย่าลืมเตรียมใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือนไปให้เรียบร้อยด้วยนะครับ
ต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีต้องทดสอบอะไรบ้าง?
สำหรับการต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีจะมีขั้นตอนเพิ่มมา 1 อย่างครับ คือหลังจากที่ยื่นเอกสาร และตรวจเอกสารแล้ว ต้องทำการทดสอบร่างกาย และ “อบรม 1 ชั่วโมง” จึงไปถ่ายรูปและรับบัตร โดยการอบรม 1 ชั่วโมงสามารถอบรมผ่านช่องทางออนไลน์หลังจากทำการจองคิวใบขับขี่ออนไลน์ได้เลย ไม่จำเป็นต้องมานั่งในห้องอบรมแล้ว และการจะมาได้ซึ่งใบขับขี่ 5 ปีนั้น จะต้องทำการทดสอบร่างกาย ดังนี้
- ทดสอบการมองเห็น (สีเขียว เหลือง แดง)
- ทดสอบสายตาลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (การเหยียบเบรครถยนต์)
ต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีต้องอบรมไหม?
ใบขับขี่หมดอายุไปแล้ว 1-3 ปีขึ้นไป จองคิวต่อใบขับขี่ล่วงหน้าต้องอบรม ดังนี้
- ถ้าใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่ถึง 3 ปี ผู้ที่จะต่อใบขับขี่ต้องอบรม 5 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่
- ถ้าใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ที่จะต่อใบขับขี่ต้องอบรม 5 ชั่วโมง สอบข้อเขียน และสอบขับรถใหม่
ต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีเสียกี่บาท?
ค่าใช้จ่ายในการต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปีจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งมีราคาที่ต้องจ่ายเท่ากันกับการต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปี คือ
- ต่อใบขับขี่รถยนต์ 5 ปีเป็น 5 ปี จ่ายเงิน 505 บาท (500 ค่าใบขับขี่ + 5 บาทค่าคำขอ)
- ต่อใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 5 ปีเป็น 5 ปีจ่ายเงิน 255 บาท (250 ค่าใบขับขี่ + 5 บาทค่าคำขอ)
ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี หรือหมดเกิน 1-3 ปีขึ้นไป ต้องอบรมไหม?
- กรณีใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี สามารถต่อใบขับขี่ได้โดยไม่ต้องอบรม แต่จะมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่ถึง 3 ปี ผู้ที่จะต่อใบขับขี่ต้องอบรม 5 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่
- กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ที่จะต่อใบขับขี่ต้องอบรม 5 ชั่วโมง สอบข้อเขียน และสอบขับรถใหม่ เหมือนกับการสอบใบขับขี่ใหม่เลย
สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1-3 ปีขึ้นไป ทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ต้องอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านระบบ DLT e-Learning ก่อน จากนั้นจึงนำผลการอบรมออนไลน์ พร้อมใบรับรองแพทย์ ไปต่อใบขับขี่หมดอายุที่กรมขนส่งต่อไป
การต่อใบขับขี่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์หรือไม่? ประกันติดโล่มีคำตอบ!
การต่อใบขับขี่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ เพราะกฎกระทรวงคมนาคมได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาไว้ว่า การต่อใบขับขี่รถทุกชนิด และทุกประเภทต้องมีใบรับรองแพทย์มาด้วย เป็นการรับรองว่าผู้ขับขี่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยด้วยโรคร้ายแรง หรือสมรรถภาพร่างกายไม่พร้อมสำหรับการขับขี่นั่นเอง
สรุป ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน 2568
คลายข้อสงสัยว่าจะต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน จากที่กรมการขนส่งทางบกได้มีการขยายระยะเวลาต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ และใบอนุญาตขับรถสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 6 เดือนหรือ 180 วัน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 ไม่ว่าจะเป็นการต่อใบขับขี่ 2 ปีเป็น 5 ปี หรือการต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี
และนอกจากการต่อใบขับขี่เพื่อให้ขับรถได้อย่างถูกกฎหมายแล้ว อย่าลืมต่อ พ.ร.บ. ซึ่งเป็นประกันรถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำด้วย และหากต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ประกันติดโล่ขอแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+ ที่ให้คุณผ่อนค่าเบี้ยประกันได้อย่างสบายกระเป๋า