ใบขับขี่หมดอายุปรับเท่าไหร่ จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ทำยังไง

การมีใบขับขี่ทุกประเภทที่ถูกต้อง และไม่ขาดต่อ เป็นหน้าที่ที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องให้สำคัญ แล้วถ้าจะต่อใบขับขี่ต้องจองคิวไหม? ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักขนส่ง ให้ผู้ขับขี่ทุกคนจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ และสามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ด้วย ไม่ต้องไปยืนรอคิวทำใบขับขี่ที่ขนส่งให้เสียเวลา มาดูวิธีจองคิวต่อใบขับขี่หมดอายุออนไลน์ อบรมใบขับขี่ออนไลน์ว่าต้องทำยังไงบ้าง พร้อมตอบข้อสงสัยหากใบขับขี่หมดอายุปรับเท่าไหร่ จะเคลมประกันได้หรือเปล่า
ใบขับขี่หมดอายุปรับเท่าไหร่ เคลมประกันได้หรือเปล่า
ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับขี่ คือ เอกสารที่กรมการขนส่งทางบกออกให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าคนผู้นั้นมีสิทธิ์ใช้รถใช้ถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายซึ่งใบขับขี่มีวันหมดอายุ ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนจึงต้องทำเรื่องต่อใบขับขี่ทุกปีเพื่อรักษาสิทธิ์การใช้รถใช้ถนน แต่ก็มีบางคนฝ่าฝืนขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ ขับรถในขณะที่ใบขับขี่หมดอายุ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นใบขับขี่อาจมีผลต่อการขอเคลมประกันด้วย!
ถ้าไม่มีใบขับขี่ หรือใช้ใบขับขี่หมดอายุ เคลมประกันได้ไหม?
รถยนต์ทุกคันมีประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีที่ขับรถชนท้าย ขับรถชนเสาไฟฟ้า สามารถใช้สิทธิ์เคลมประกันตามเงื่อนไขของประกันได้เลย เช่น ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี หรือ ประกันรถชั้น 3+ คุ้มครองเฉพาะรถชนที่มีคู่กรณี คำถามคือถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ไม่มีใบขับขี่ ใบขับขี่หมดอายุ ใบขับขี่ถูกยึด จะขอเคลมประกันได้ไหม คำตอบคือ “ได้” แต่ว่ามีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปครับ
ใบขับขี่หมดอายุ เคลมประกันได้ไหม?
ใบขับขี่หมดอายุสามารถเคลมประกันได้ต่อให้เป็นฝ่ายถูกหรือผิด ซึ่งความคุ้มครองอยู่กับประเภทของประกันรถ โดยบริษัทประกันมองว่าคุณมีความสามารถในการขับขี่รถตามกฎหมาย เพียงแต่ใบขับขี่หมดอายุก็เท่านั้น
ไม่มีใบขับขี่ ประกันคุ้มครองไหม?
ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิดแล้วไม่มีใบขับขี่ ประกันรถยนต์ยังคุ้มครองแค่คู่กรณีเท่านั้น ในส่วนของความเสียหายของผู้เอาประกันบริษัทประกันจะไม่คุ้มครองนะครับ
ไม่ได้พกใบขับขี่ ไม่มีใบขับขี่ ใบขับขี่หมดอายุ ผิดกฎหมายไหม ปรับเท่าไหร่
กฎหมายบังคับให้มีใบขับขี่ ดังนั้น ถ้าไม่มีใบขับขี่ ไม่พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ จะมีโทษตามกฎหมาย โดยความผิดแต่ละประเภทมีโทษและค่าปรับต่างกันออกไป ซึ่งประกันติดโล่จะอ้างอิงค่าปรับและความผิดเกี่ยวกับใบขับขี่จาก พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ซึ่งให้ข้อมูลเอาไว้ คือ
- มาตรา 64 : ขับรถไม่มีใบขับขี่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- มาตรา 65 : ใบขับขี่หมดอายุ ถูกยึดใบขับขี่ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- มาตรา 66 : มีใบขับขี่แต่ไม่แสดงให้เจ้าหน้าที่เห็น ไม่ได้พกใบขับขี่ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ถ้าในกรณีเป็นคนขี้ลืมคือลืมพกกระเป๋าสตางค์บ่อยๆ หรือลืมพกใบขับขี่ ทางกรมการขนส่งทางบก ก็ได้ปล่อยแอปพลิเคชัน DLT QR Licence ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ใช้งาน ซึ่งนี่เป็น แอปพลิเคชันใบขับขี่ออนไลน์ ที่สามารถใช้แทนใบขับขี่จริงๆ ได้เลยครับ เพียงสแกน QR Code หลังใบขับขี่เท่านั้นเอง!
ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน หมดอายุ 1 ปียังใช้ได้ไหม?
ยังใช้ได้ครับ แต่ถ้าใบขับขี่หมดอายุ อย่าเพิกเฉยเพราะคิดว่าค่าปรับจะแค่น้อยนิด ยอมจ่ายค่าปรับก็ได้ ไม่เท่าไหร่เอง แต่อย่าลืมว่าถ้าขับรถชนไม่มีใบขับขี่ขึ้นมา โอกาสที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ก็มีเหมือนกัน ต่อใบขับขี่หมดอายุให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมจะดีที่สุด
ใบขับขี่หมดอายุ ต่อล่วงหน้าได้ไหม ภายในกี่วัน
ถ้าประกันรถยนต์ กับ พ.ร.บ.รถยนต์ ทำได้ ใบขับขี่หมดอายุก็ต่อล่วงหน้าได้เช่นกัน โดยสามารถต่อใบขับขี่ก่อนหมดอายุได้ถึง 6 เดือน หรือ 180 วัน จากเดิมที่กำหนดไว้แค่ 3 เดือน หรือ 90 วันเท่านั้น เพราะกรมการขนส่งทางบกเห็นว่าเป็นการยืดระยะเวลาเพื่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้ต่อใบขับขี่แล้วใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ใบขับขี่หมดอายุ 1 ปี ยังใช้ได้อยู่ไหม?
ถ้าอ้างอิงจากประกาศของ กรมการขนส่งทางบก ระบุเอาไว้ว่า ใบขับขี่หมดอายุ 1 ปี หรือใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี สามารถใช้ต่อได้เลยโดยไม่ต้องไปจองคิวต่อใบขับขี่ แต่ถ้ารัฐบาลประกาศยกเลิกการใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน หรือมีประกาศอื่น ๆ ต้องไปทำเรื่องต่อใบขับขี่หมดอายุภายใน 15 วัน
ขั้นตอนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2567 ผ่าน DLT e-Learning
สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ทั้งใบขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลจาก 5 ปี เป็น 5 ปี ต้องอบรมออนไลน์ต่อใบขับขี่ผ่านระบบ DLT e-Learning ก่อน จากนั้นนำผลว่าคุณได้ผ่านการอบรมออนไลน์ พร้อมใบรับรองแพทย์ ไปต่อใบขับขี่หมดอายุที่กรมขนส่งต่อไป
วิธีการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2567 ผ่านระบบ DLT e-Learning มีขั้นตอนดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เข้าระบบ
- กรอกเลขบัตรประชาชน และวันเดือนปีเกิด
- กรณียังไม่เคยลงทะเบียนผ่านระบบ DLT e-Learning กด ‘ลงทะเบียนใหม่’ และกรอกข้อมูลส่วนตัว
- เลือกหลักสูตรที่ต้องการอบรม ‘อบรมต่ออายุใบอนุญาต รถส่วนบุคคล/รถขนส่ง/รถสาธารณะ’ กด ‘สมัครอบรม’
- เลือกประเภทรถที่ต้องการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ กด ‘สมัครอบรม’
- กด ‘ดำเนินการต่อ’ เพื่อดูวิดีโออบรม
ผลอบรมใบขับขี่ออนไลน์อยู่ได้กี่วัน
หลังจากอบรมออนไลน์ต่อใบขับขี่ผ่านระบบ DLT e-Learning เรียบร้อยแล้ว ผลการอบรมจะมีอายุ 90 วันนับจากวันที่อบรม ดังนั้น ผู้ขับขี่จะมีเวลา 3 เดือน ในการไปต่อใบขับขี่ที่ขนส่ง การกำหนดระยะเวลานี้เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้วางแผนวันเวลาล่วงหน้า เพื่อไปต่อใบขับขี่หมดอายุได้อย่างทันท่วงที
อบรมใบขับขี่ออนไลน์มีกี่ประเภท ใช้เวลาอบรมกี่ชั่วโมง
คุณสามารถอบรมการต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นี่เป็นความสะดวกที่กรมการขนส่งมอบให้ ซึ่งการอบรมเพื่อต่อใบขับขี่ออนไลน์ มีทั้งหมด 4 ประเภท คือ
- การอบรมต่อใบขับขี่สำหรับรถส่วนบุคคล ทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ใช้เวลาอบรม 1 ชั่วโมง
- การอบรมต่อใบขับขี่สำหรับรถขนส่ง ใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง
- การอบรมต่อใบขับขี่สำหรับรถสาธารณะ ใช้เวลาอบรม 3 ชั่วโมง
- การอบรมต่อใบขับขี่สำหรับรถส่วนบุคคลที่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง
ต้องตอบคำถาม 3 ข้อสำหรับสอบต่อใบขับขี่ออนไลน์ด้วย
เมื่อกดเริ่มทำแบบทดสอบ จะมีข้อสอบใบขับขี่ออนไลน์ 3 ข้อให้คุณตอบก่อนเริ่มดูวิดีโออบรมออนไลน์ และหลังจากที่ดูวิดีโออบรมออนไลน์เสร็จ ก็จะมีให้ตอบคำถาม 3 ข้อเพื่อต่อใบขับขี่ออนไลน์เช่นเดียวกัน เป็นการวัดทักษะก่อนเริ่มและหลังเพื่อตรวจสอบว่าคุณได้ตั้งใจฟังวิดีโออบรมออนไลน์ไหม
จองคิวต่อใบขับขี่หมดอายุออนไลน์ก่อนไปขนส่ง
จองคิวต่อใบขับขี่หมดอายุออนไลน์ผ่านแอป DLT Smart Queue ดาวน์โหลดได้ที่ Android / iOS ลงทะเบียนสมัครสมาชิก และเลือกสำนักงานขนส่งที่จะเข้าไปใช้บริการตามความสะดวกได้เลย ประกันติดโล่แนะนำให้จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ไปก่อน คุณจะได้ไม่ต้องไปยืนรอคิวนานๆ หรืออาจไปรอคิวแต่ไม่ได้ทำ เพราะเจ้าหน้าที่จะให้บริการผู้ที่จองคิวมาก่อนล่วงหน้า
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อต่อใบขับขี่หมดอายุ
หลังจากจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์แล้ว ลำดับต่อไปคือ การเตรียมเอกสารเพื่อไปทำใบขับขี่ใหม่ครับโดยเอกสารที่ต้องใช้ในการต่อใบขับขี่ คือ
- ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุไปแล้ว
- บัตรประชาชน
- ใบรับรองแพทย์
แต่งตัวไปสอบใบขับขี่ หรือต่อใบขับขี่ใส่ขาสั้นได้ไหม?
สำหรับการแต่งตัวไปสอบใบขับขี่ หรือต่อใบขับขี่ แนะนำว่าควรใส่กางเกงขายาว และเป็นรองเท้ารัดส้น เพราะถ้าใส่รองเท้าแตะเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ปฏิเสธไม่ให้สอบใบขับขี่หรือต่อใบขับขี่ ในข้อนี้ประกันติดโล่มองว่า เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมสำหรับการทดสอบ ทั้งยังสร้างความทะมัดทะแมงให้กับการสอบใบขับขี่อีกด้วย
สรุป อบรมใบขับขี่ออนไลน์ และจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ให้เรียบร้อย
ผู้ขับขี่ทุกคนควรวางแผนไปต่อใบขับขี่ล่วงหน้า เพื่อลดความเสี่ยงในการขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง หรือใบขับขี่หมดอายุ ซึ่งอาจถูกเจ้าหน้าที่เรียกปรับสูงสุดถึง 2,000 บาทตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก การมีใบขับขี่ที่เป็นปัจจุบันไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อการทำประกันรถยนต์ ซึ่งอาจมีผลต่อความคุ้มครอง และการเคลมประกันของคุณในอนาคตได้ ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุ และวางแผนอบรมใบขับขี่ออนไลน์ และจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ให้เรียบร้อย เพื่อความสบายใจในการใช้รถใช้ถนนกันนะครับ