พ.ร.บ. รถยนต์ vs ประกันรถยนต์ แตกต่างกันอย่างไร
คนมีรถต่างก็รู้กันดีว่านอกจากภาษีทะเบียนรถยนต์ที่ต้องจ่ายทุกปีแล้ว ยังมี พ.ร.บ. รถยนต์ที่จำเป็นต้องต่ออายุทุกปีด้วยเช่นกัน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า พ.ร.บ. นั้นมีความคล้ายกับ ประกันรถยนต์ แล้วแบบนี้มันแตกต่างกันอย่างไรล่ะ?
วันนี้ประกันติดโล่จึงจะมาอธิบายให้ฟังว่า พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นแบบไหน คืออะไร แตกต่างจากประกันรถยนต์อย่างไร และมีประโยชน์ต่อเรายังไงในการขับขี่รถยนต์
พ.ร.บ. รถยนต์คืออะไร?
พ.ร.บ. รถยนต์ ย่อมาจาก “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์” เป็นประกันภาคบังคับ ที่กฎหมายกำหนดให้ยานพาหนะที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกทุกประเภทต้องมีไว้ เพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ขับขี่ว่าจะได้รับสิทธิคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ซึ่งวงเงินคุ้มครองที่ผู้ขับขี่จะได้รับจาก พ.ร.บ. รถยนต์นั้น มีการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนตามกฎหมายแล้ว โดยมีการจ่าย 2 รูปแบบ ดังนี้
- ค่าเสียหายเบื้องต้น ได้รับโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด
- ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร 35,000 บาท
- ค่าเสียหายส่วนเกิน กรณีพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
- ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ สูงสุดไม่เกิน 80,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
- ค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน (กรณีต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล)
- จำนวนเงินรวมทั้งหมดที่จ่ายได้ รวมกันสูงสุดไม่เกิน 304,000 บาท
หมายความว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วคุณเป็นฝ่ายผิด จะได้เงินคุ้มครองจากค่าใช้จ่ายเบื้องต้นหรือ ข้อ 1 เท่านั้น
สำหรับใครที่ พ.ร.บ. รถยนต์ประจำปีใกล้จะหมดอายุแล้ว สามารถนำมาต่ออายุกับประกันติดโล่ได้เลยครับ เรามีบริการต่ออายุ พ.ร.บ. สำหรับรถทุกประเภท นอกจากนี้ยังสามารถดำเนินการได้ทันที ไม่บวกค่าธรรมเนียมเพิ่ม ไม่ต้องกังวลว่าจะแพงกว่าที่อื่น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ สามารถรับบริการได้ที่ประกันติดโล่ทุกสาขาใกล้บ้านคุณได้เลยครับ
ความแตกต่างระหว่าง พ.ร.บ. รถยนต์ กับประกันรถยนต์
พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นแบบไหน? จะเห็นได้ว่า พ.ร.บ. รถยนต์นั้นจะมีการให้ความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุบนท้องถนนเช่นกัน หลาย ๆ คนอาจสังเกตเห็นว่าแบบนี้ก็เหมือนกับประกันภัยรถยนต์เลยสิ …แต่จริง ๆ แล้วทั้ง 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันอยู่ โดยสามารถดูได้ดังนี้
พ.ร.บ. รถยนต์นั้นจัดเป็นประกันภาคบังคับตามกฎหมาย ซึ่งยานพาหนะทางบกทุกคันจำเป็นที่จะต้องมี โดยเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะให้ความคุ้มครองเฉพาะตัวผู้ขับขี่เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงรถยนต์ ซึ่งวงเงินคุ้มครองนั้นจะมีกำหนดไว้แล้วตามกฎหมาย
ส่วนประกันรถยนต์นั้นจัดเป็นประกันภาคสมัครใจที่เลือกจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ซึ่งแตกต่างจาก พ.ร.บ. รถยนต์ตรงที่จะให้ความคุ้มครองทั้งตัวรถและผู้ขับขี่ โดยจำนวนเงินคุ้มครองนั้นขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก และเงื่อนไขของบริษัทประกันแต่ละแห่ง
ทำประกันรถยนต์แล้วไม่ต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ ได้หรือไม่?
คำตอบก็คือ ไม่ได้ครับ เนื่องจากเป็นกฏหมายที่ทางภาครัฐระบุเอาไว้ เพราะ พ.ร.บ. นี้นอกจากจะมีไว้เพื่อเป็นหลักประกันสำหรับผู้ขับขี่แล้ว ยังเป็นหลักประกันให้กับทางโรงพยาบาลว่าผู้ประสบภัยที่เข้ารับการรักษาจะสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้
นอกจากนี้ถ้าคุณไม่ต่ออายุ พ.ร.บ. รถยนต์ จะไม่สามารถต่อภาษีทะเบียนรถยนต์ได้ และถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาทอีกด้วย ไม่คุ้มกันเลยครับ
สรุป
เท่านี้ทุกคนก็คงจะทราบกันแล้วว่า พรบ. รถยนต์นั้นแตกต่างจากประกันรถยนต์ตรงที่ ให้ความคุ้มครองเฉพาะผู้ขับขี่ แต่ไม่คุ้มครองตัวรถยนต์ หากมีแต่ พ.ร.บ. ติดรถยนต์ไว้เพียงอย่างเดียว เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ค่าซ่อมรถทั้งหมดคุณต้องจ่ายเองครับ
ด้วยความปรารถนาดีจากประกันติดโล่ เราแนะนำให้คุณมีประกันรถยนต์ควบคู่ไปกับ พ.ร.บ. เพื่อความอุ่นใจด้านทรัพย์สินของคุณ ทั้งค่าใช้จ่ายในกรณีบาดเจ็บ และกรณีที่รถเสียหาย รับรองว่ากระเป๋าสตางค์ไม่ฉีกแน่นอนครับ
หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะซื้อจากบริษัทไหน และแบบไหนถึงจะคุ้มค่าที่สุด ให้ประกันติดโล่แนะนำสิครับ เราเป็นโบรกเกอร์ที่มีแผนประกันภัยจากบริษัทชั้นนำให้คุณได้เลือกมากมาย พร้อมเปรียบเทียบประกันแต่ละแบบให้เห็นถึงความคุ้มค่า รับรองเลยว่าประกันที่ได้จะถูกใจคุณอย่างแน่นอน!
สนใจลงทะเบียนเพื่อรับการติดต่อกลับได้ที่ โบรกเกอร์ประกันภัยประกันติดโล่ หรือสอบถามที่ประกันติดโล่ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดต่อที่เบอร์ 1501 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรายินดีให้บริการครับ