ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ไฟฟ้า แตกต่างจากรถทั่วไปไหม
ประเภทรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งแบบไฮบริด (HEV) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) และแบตเตอรี่ (BEV) ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่นี้ จะไม่มีการปล่อยควันไอเสียออกมาเลย 100% จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ แต่หลายคนอาจกำลังกังวลว่า ประกันรถยนต์ไฟฟ้าแพงไหม เพราะชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาแพงโดยเฉพาะแบตเตอรี่ มาทำความเข้าใจความคุ้มครองของประกันรถยนต์ไฟฟ้าในเบื้องต้น บอกได้เลยว่าคุ้มกับค่าเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายอย่างแน่นอน
ประกันรถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร ต่างจากประกันรถทั่วไปไหม
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า คือ การประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ครอบคลุมความเสียหาย ความสูญเสีย และอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานรถ ทั้งนี้ขอบเขตความคุ้มครองขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ของแต่ละบริษัทประกันภัย แต่จะมีความคุ้มครองเพิ่มเติมที่เหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีเทคโนโลยี ส่วนประกอบ และลักษณะความเสียหายที่แตกต่างออกไป ซึ่งเป็นความเสี่ยงหลักที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองในประกันรถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะการรับประกันแบตเตอรี่ที่มีราคาสูง ระบบชาร์จไฟ และจำเป็นต้องมีศูนย์บริการเฉพาะทางรองรับด้วย
ประกันรถยนต์ไฟฟ้าคุ้มครองอะไรบ้าง
ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะมีความแตกต่างกันตามรุ่น และยี่ห้อของรถคันนั้น เพราะต่างก็มีเทคโนโลยี ส่วนประกอบ และอุปกรณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปแล้วประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะให้ความคุ้มครองเบื้องต้น ดังนี้
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินเหมือนกับประกันรถยนต์ทั่วไป ทั้งแบบที่มีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี
- คุ้มครองค่าซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้าอายุไม่เกิน 5 ปี ที่ศูนย์บริการที่มีช่างเฉพาะทาง และมีอะไหล่พิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
- การทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ และคุ้มครองผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คนเท่านั้น เพื่อควบคุมความเสี่ยงจากการใช้งาน
- คุ้มครองความเสียหายที่เกี่ยวกับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น เครื่องชาร์จ สายชาร์จ และอุบัติเหตุจากการชาร์จ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ไม่มีในรถยนต์ทั่วไป
- มีความคุ้มครองพิเศษเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าตามที่บริษัทประกันกำหนด เนื่องจากเป็นประเภทรถที่มีเทคโนโลยี และความเสี่ยงแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป
เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าราคาเท่าไหร่
เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าจากยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมใช้งานมากที่สุดในตอนนี้ โดย heygoody
ยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้า | ทุนประกัน | ค่าเบี้ยประกันเริ่มต้น |
Fomm | 370,000 | 17,500 |
MG | 590,000 | 19,055 |
NETA | 400,000 | 21,000 |
ORA | 640,000 | 22,326 |
BYD | 800,000 | 24,500 |
NISSAN | 1,450,000 | 38,000 |
Tesla | 1,350,000 | 50,000 |
BMW | 2,600,000 | 68,900 |
วางแผนทำประกันรถยนต์ไฟฟ้ายังไงให้คุ้มค่า
เพื่อให้คุณวางแผนทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าในราคาคุ้มค่า สอดคล้องกับความคุ้มครองที่จะได้รับ มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนี้
- ค่าเบี้ยประกัน
รถยนต์ไฟฟ้ามีต้นทุนการผลิต และการซ่อมแซมสูงกว่ารถยนต์ประเภทอื่น ทำให้เบี้ยประกันมีราคาสูงตามความเสี่ยงที่บริษัทประกันคาดว่าจะได้รับ ผู้เอาประกันจำเป็นต้องวางแผนงบประมาณส่วนนี้ในระยะยาวอย่างรอบคอบ เตรียมเงินให้พร้อมสำหรับต่อประกันรถยนต์แต่ละปี เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและต่อเนื่อง
- ความคุ้มครอง
ปัจจัยสำคัญในการเลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้า คือ ขอบเขตความคุ้มครอง เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีอุปกรณ์ และส่วนประกอบที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะความคุ้มครองแบตเตอรี่ ซึ่งมีราคาสูงเกือบ 70-80% ของมูลค่ารถ ผู้เอาประกันควรเลือกแผนประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ช่วยเพิ่มความสบายใจในการใช้งานรถ
- จำนวนทุนประกัน
ทุนประกันภัยที่ให้ความคุ้มครอง เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาไปพร้อม ๆ กันด้วย ถ้าเกิดความเสียหายกับรถคุณขึ้นมา การเลือกทุนประกันที่ไม่เพียงพอ ผู้เอาประกันต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเองทั้งหมด ดังนั้น ผู้เอาประกันควรพิจารณาทุนประกันที่ได้รับ ว่าเหมาะสมกับมูลค่ารถยนต์ไฟฟ้าของคุณไหม
- ศูนย์บริการ
การซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า จำเป็นต้องใช้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญในรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ตรวจสอบแผนประกันให้รอบคอบ ว่ามีศูนย์บริการครอบคลุมแต่ละพื้นที่ไหม สามารถเข้ารับบริการได้กี่ครั้ง รวมถึงบริการฉุกเฉินกรณีที่รถเสีย ซึ่งจะช่วยให้ผู้เอาประกันมั่นใจได้ว่า ถ้าเกิดปัญหาขึ้น คุณจะค้นหาศูนย์บริการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สรุป ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ไฟฟ้า
ประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีการปรับเปลี่ยนความคุ้มครองให้เหมาะกับเทคโนโลยี ส่วนประกอบ และลักษณะการใช้งานเฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะมีความแตกต่างจากประกันรถยนต์ประเภทอื่น การเลือกประกันรถยนต์ไฟฟ้า ไม่เพียงแต่คำนึงถึงค่าเบี้ยประกันเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับความคุ้มครอง และทุนประกันที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด คุ้มกับค่าเบี้ยประกันที่จะต้องจ่าย สำหรับคนใช้รถยนต์ประเภทอื่น ประกันติดโล่เรามาพร้อมแผนประกันรถที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1, แผนประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ แผนประกันรถยนต์ชั้น 3+ ให้คุณเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์การใช้งานรถมากที่สุด