ฝนตกจนน้ำเข้ารถ รถพัง สามารถเคลมประกันได้ไหม
ปัญหาที่คนมีรถยนต์หลายคนกังวลในช่วงหน้าฝนคือ ฝนตกหนัก ที่บางครั้งก็มีพายุเข้ามาติดต่อกันหลายวัน จนเกิดน้ำท่วมขังบนท้องถนน หรือรุนแรงไปจนเกิดน้ำหลากเข้าไปถึงบ้าน จนทำให้ตัวรถเสียหาย
เจ้าของรถหลายคนน่าจะสงสัยกันใช่ไหมครับ ว่าเมื่อเกิดกรณีรถพังจากน้ำท่วมรถ น้ำเข้าตัวรถ จะสามารถเคลมประกันภัยรถยนต์ได้ไหม แล้วมีข้อควรระวังอะไรบ้างที่ประกันอาจจะไม่รับเคลม
มาดูกันว่าเมื่อรถน้ำท่วมแล้วจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้ประกันภัยรถยนต์นั้นคุ้มครองรถของคุณเมื่อเกิดความเสียหายจากกรณีน้ำท่วม
น้ำเข้ารถแบบไหนที่ประกันจะรับเคลม
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า สาเหตุที่ทำให้รถเสียหายจากน้ำท่วมมีหลายรูปแบบ ซึ่งทางประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองที่ต่างกัน โดยแบ่งกรณีที่รถเสียหายจากน้ำท่วมได้ดังนี้
-
เกิดน้ำท่วมจากภัยพิบัติธรรมชาติ
จอดรถเอาไว้ในบ้าน แล้วในช่วงหน้าฝนมีพายุฝนถล่มติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้เกิดน้ำหลาก ย้ายรถหนีไม่ทัน รถถูกน้ำเข้าเสียหายบางส่วน
กรณีนี้ประกันภัยรถยนต์ > รับเคลม แต่ในกรณีที่รถถูกน้ำเข้าจนเสียหายโดยสิ้นเชิงและทางบริษัทประกันประเมินว่าไม่คุ้มที่จะซ่อมให้กลับมาในสภาพเดิม จะจ่ายเงิน 70-80% ของทุนประกัน
-
ขับรถไปลุยน้ำท่วมขังบนถนน
กำลังขับรถอยู่บนท้องถนนแล้วเห็นว่ามีน้ำท่วมขังแต่ยังตัดสินใจขับรถลุยน้ำ จนน้ำเข้าห้องเครื่อง ทำระบบไฟฟ้าเสียหาย เครื่องยนต์ดับ หรือระดับน้ำสูงจนเข้ามาในห้องโดยสารจนเบาะรถ หรือวัสดุอื่นๆ เกิดความเสียหาย
หรือมีประกาศออกมาจากทางภาครัฐว่าถนนเส้นไหนกำลังเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม แต่คุณยังตัดสินใจขับรถไปบนถนนเส้นนั้นจะรถพังเสียหาย
อ่านมาถึงตรงนี้อาจมีคำถามว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองน้ำท่วมไหม? กรณีนี้ประกันภัยรถยนต์ > ไม่รับเคลม หรือประกันภัยรถยนต์ประเภทที่ 1 ช่วยค่าเสียหายบางส่วน (แล้วแต่กรณี)
-
รถติดบนถนนขณะที่ฝนตกหนักจนน้ำท่วม
ขับรถออกไปข้างนอก แล้วเกิดรถติดอยู่บนถนนเส้นหนึ่งเป็นเวลานาน จากนั้นมีฝนตกหนักแล้วอยู่ๆ เกิดน้ำท่วมสูงจนทำให้รถได้รับความเสียหาย
กรณีนี้ประกันภัยรถยนต์ > รับเคลม
รถเสียหายจากน้ำเข้ารถ เคลมประกันแบบไหนได้บ้าง?
การขอเคลมค่าซ่อมแซมรถยนต์จากน้ำท่วม จะขึ้นอยู่กับลักษณะของความเสียหาย โดยทางบริษัทประกันจะพิจารณาจากลักษณะของการถูกน้ำเข้า ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบเองได้จากกรมธรรม์ก่อนว่าคุ้มครองในกรณีไหนบ้าง
โดยประเภทประกันภัยที่จะคุ้มครองการถูกน้ำท่วม ได้แก่
- ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1
- ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)
- ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)
การเตรียมตัวเคลมประกันเมื่อน้ำเข้ารถ
เมื่อตรวจสอบแล้วว่ารถของคุณสามารถเคลมประกันได้จากกรณีน้ำท่วม ให้ทำการเตรียมตัวขอเคลมได้ดังนี้
- เอกสารเกี่ยวกับตัวรถและกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้พร้อม ซึ่งควรมีฉบับสำรองเตรียมเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
- เอกสารที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของรถ เช่น ใบขับขี่ สำเนาบัตรประชาชน
- หลักฐานในขณะเกิดเหตุ เช่น ภาพถ่ายขณะเกิดน้ำท่วม จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ประกันสามารถประเมินความเสียหายได้
ไม่มีหลักฐานจะทำอย่างไรดี?
ใช้การบันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์เอาไว้ให้ละเอียดที่สุด โดยคาดคะเนความเสียเอาไว้ด้วยตา ว่าน้ำท่วมสูงแค่ไหน และเกิดเหตุในช่วงเวลากี่โมง หรือทางที่ดีให้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานเอาไว้
ช่องทางและขั้นตอนเคลมประกันภัยรถยนต์
เมื่อรถของคุณได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำเข้า และได้ตรวจสอบตามกรมธรรม์แล้วว่าอยู่ในความคุ้มครองของบริษัทประกันภัย ก็สามารถทำเรื่องเคลมได้โดย
- ติดต่อบริษัทประกันภัยโดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง
- เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันจะเข้ามาตรวจสอบ และบันทึกความเสียหาย
- เลือกอู่ หรือศูนย์ซ่อมรถเพื่อประเมินราคา
- รอการอนุมัติซ่อม
- เมื่อเอกสารผ่านการอนุมัติ ก็สามารถนำรถไปส่งที่อู่หรือศูนย์ได้เลย
ในช่วงที่ฝนตกหนักแบบนี้ ถ้าคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่คุ้มครองเรื่องความเสียหายในช่วงที่ฝนตก ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วมเข้าตัวรถ รถชน อุบัติเหตุจากถนนลื่น มาซื้อประกันรถยนต์กับประกันติดโล่ ที่มีให้คุณเลือกเปรียบเทียบแบบประกันจากกว่า 15 บริษัทประกันชั้นนำ
เพียงจ่ายงวดแรกก็คุ้มครองทันที อยู่บ้านก็ซื้อประกันติดโล่ได้ง่ายๆ ไม่ต้องมาสาขา ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 1501 ได้ตลอด 24 ชม. หรือกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ได้เลยครับ