โดนชนแล้วหนี ไม่มีกล้องหน้ารถ หาชื่อเจ้าของทะเบียนเบียนรถได้ไหม
กล้องหน้ารถ คือฮีโร่ที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์ทุกอย่างบนถนนให้กับคุณ เผื่อวันใดวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุรถชนขึ้น เช่น รถชนท้าย รถชนเสาไฟฟ้า ขับรถหลับใน ฯลฯ บริษัทประกันจะได้นำคลิปเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าใครถูกหรือผิด รวมไปถึงการโดนชนแล้วหนีด้วยที่มีภาพบันทึกภาพว่าคู่กรณีเป็นใคร แล้วถ้าไม่มีกล้องหน้า
รถยนต์แต่จำเลขทะเบียนได้ อยากหาชื่อเจ้าของทะเบียน เช็กป้ายทะเบียนรถว่าเป็นใครได้หรือเปล่า เพื่อให้คู่กรณีมารับผิดชอบค่าเสียหาย มาหาคำตอบเรื่องราวการค้นหาเจ้าของป้ายทะเบียนในบทความนี้เลยครับ
ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถโดนพลการ!
แม้จะโชคร้ายที่ไม่มีกล้องหน้ารถไว้บันทึกคู่กรณีชนแล้วหนี แต่ยังโชคดีที่จำทะเบียนรถได้เลยอยากเช็คป้ายทะเบียนรถ หาชื่อเจ้าของทะเบียนรถว่าเป็นใคร เพราะต้องการให้คู่กรณีรับผิดชอบค่าเสียหาย ไม่สามารถไปที่กรมการขนส่งแล้วขอเช็กทะเบียนรถชนแล้วหนีในฐานะบุคคลทั่วไปได้เลย เพราะถือว่าผิดกฎหมาย
โดย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตราที่ 3 ระบุเอาไว้ว่า ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 5, 6, 7, 8, 9, 10 หรือ 11 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งมาตราที่ 5, 6, 7, 8, 9, 10 และ 11 คือความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นการกระทำที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ดังนั้น การเช็กทะเบียนรถว่าเป็นของใครด้วยวิธีพลการ จึงมีโทษผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ถ้าอยากจะหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถว่าเป็นใคร มีวิธีอยู่ครับ
ที่มา : พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
เช็กป้ายทะเบียนรถชนแล้วหนีว่าเป็นของใคร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
โดนชนแล้วหนี ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีเช็กป้ายทะเบียนรถว่าเป็นของใคร โดยคุณสามารถยืนคำร้องได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งของจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบรายชื่อข้อมูลทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งต้องเตรียมเอกสารที่แสดงหลักฐานว่าทำไมจึงต้องมาขอเช็กป้ายทะเบียนรถ คือ
6 เอกสารที่ต้องใช้เช็กทะเบียนรถชนแล้วหนี ว่าเป็นของใคร
-
บัตรประชาชน (ตัวจริงและสำเนา พร้อมเซ็นสำเนาให้ครบถ้วน)
-
หนังสือรับรองนิติบุคคล (ตัวจริงและสำเนา พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจให้ครบทุกคน) กรณีสำเนาต้องลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามให้ครบถ้วนพร้อมประทับตรานิติบุคคลในเอกสารทุกฉบับ (ถ้ามี) และแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีอำนาจลงนามทุกคน
-
หนังสือนำส่งเรื่องของหน่วยงานของรัฐขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร (ฉบับจริง) กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร
-
สำเนาหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัย พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาให้ครบถ้วน กรณีบริษัทประกันภัยเป็นผู้ขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร
-
สำเนาใบอนุญาตทนายความ หรือสำเนาใบแต่งทนาย กรณีทนายความเป็นผู้ขอตรวจดูหรือขอสำเนาเอกสาร
-
สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีของสถานีตำรวจที่เกิดเหตุ (ฉบับจริง และสำเนา พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาให้ครบถ้วน)
ค่าธรรมเนียมในการขอเช็กป้ายทะเบียนรถชนแล้วหนี
- ค่าคำขอ ฉบับละ 5 บาท
- ค่าขอค้นเอกสารรถยนต์ ครั้งละ 50 บาท
- ค่าขอค้นเอกสารรถมอเตอร์ไซค์ ครั้งละ 10 บาท
- ค่ารับรองสำเนา แผ่นละ 20 บาท
และนี่เป็นสิ่งที่คุณต้องรู้เมื่อโดนชนแล้วหนีว่าจะหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถยนต์ เช็กป้ายทะเบียนรถยนต์ว่าใครเป็นเจ้าของกับกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งในแต่ละจังหวัดเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการรับผิดชอบตามความเสียหาย ถ้าไม่มีกล้องหน้ารถก็ควรที่จะจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ให้แม่นยำด้วยครับ
ถ้าโดนชนแล้วหนี ประกันรถยนต์จะจ่ายค่าเสียหายให้ไหม?
จะไม่พูดถึงเรื่องประกันรถยนต์ก็ไม่ได้ เพราะโดนชนแล้วหนีทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย จะให้ตามหาตัวคู่กรณีก็ต้องใช้เวลา เพราะสิ่งแรกที่ต้องโทรหาคือบริษัทประกันเพื่อแจ้งเหตุ ทำให้คุณกำลังกังวลว่า โดนชนแล้วหนีประกันรถจ่ายไหม คำตอบคือ “จ่าย” แต่อยู่ที่เงื่อนไขของประกันรถยนต์ที่คุณได้ซื้อเอาไว้ว่าเป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจประเภทใด เช่น
โดนชนแล้วหนี แต่มีประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นกรณีภัยพิบัติจากธรรมชาติ เช่น รถไฟไหม้ รถน้ำท่วม หรือการเกิดอุบัติเหตุบนถนน เช่น รถชนท้าย รถเฉี่ยวกัน หรือรถชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า ซึ่งในกรณีที่โดนชนแล้วหนี เป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณี แล้วหาคู่กรณีไม่ได้จริงๆ ตามจับตัวไม่ได้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไข แต่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกเพิ่มเติมด้วยครับ
โดนชนแล้วหนี แต่มีประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถชั้น 3+
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองรถยนต์ในกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น ดังนั้น หากโดนชนแล้วหนี ถ้าหาคู่กรณีได้ หรือจำเลขทะเบียนรถได้จึงไปหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถก็สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ แต่ถ้าไม่สามารถหาได้เพราะจำเลขทะเบียนไม่ได้ ประกันรถยนต์ก็จะไม่คุ้มครอง เพราะถือว่ารถชนแบบไม่มีคู่กรณี
ดังนั้น ประกันรถยนต์ประเภท 1 ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีที่สุดครับ หากเกิดเหตุการณ์ชนแล้วหนีขึ้นมาจริงๆ ก็สามารถใช้สิทธิ์เคลมประกันรถยนต์ได้โดยกังวลเรื่องค่าเสียหายน้อยลง แล้วค่อยหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถ เช็กป้ายทะเบียนว่าเป็นของใครตามทีหลัง ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 1 แบบผ่อนมีที่ประกันติดโล่
สรุป
โดนชนแล้วหนี ไม่มีกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพเหตุการณ์ แต่จำป้ายทะเบียนได้เลยอยากหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถ เช็กป้ายทะเบียนรถว่าเป็นของใคร สามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักขนส่งในพื้นที่เขตโดยต้องมีเอกสารในการทำเรื่องด้วย ไม่อย่างนั้นจะถือว่าผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งในเหตุการณ์นี้สิ่งเดียวที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงเรื่องค่าเสียหายได้คือ ประกันรถยนต์” ครับ!