เปิดรายชื่อ 10 อันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024
นอกจากความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว การมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันของคุณน่าอยู่ขึ้น แล้วต้องใช้ชีวิตแบบไหนถึงจะเรียกว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีล่ะ? วันนี้เราจะพาคุณมาดู 10 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในปี 2024 จากการจัดอันดับ World’s Best Countries to Live in for Quality of Life, 2024 ของนิตยสาร CEOWORLD มาดูกันว่าประเทศเหล่านี้มีดีอะไร ที่ทำให้เป็นประเทศน่าอยู่ที่สุดในปีนี้
การจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ดูจากอะไร?
แน่นอนว่าการมีธรรมชาติที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ประเทศเหล่านั้นติดอันดับ 10 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024 ได้ เพราะการจัดอันดับ World’s Best Countries to Live in for Quality of Life, 2024 จะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
ด้านความมั่นคง
- การเติบโตทางเศรษฐกิจ
- อัตราการจ่ายภาษี
- อายุขัยโดยเฉลี่ย
- ความมั่นคงในการทำงาน
- ที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม
- รายได้และค่าใช้จ่าย
ด้านความพึงพอใจ
- ความปลอดภัยในการใช้ชีวิต
- ความสุขในการใช้ชีวิต
- คุณภาพการปกครอง
- การรับรู้เกี่ยวกับการทุจริต
- อัตราการเสียชีวิตของเด็กและมารดา
- โครงสร้างพื้นฐานและการขนส่ง
ด้านความสมดุล
- สิทธิมนุษยชน
- เสรีภาพของพลเมือง
- สิทธิทางการเมือง
- ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน
- เสรีภาพทางศาสนา
- ความเท่าเทียมทางเพศ
- ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยพื้นฐานที่บ่งบอกได้ว่าประเทศที่คุณอยู่หรือในแต่ละประเทศ มีความน่าอยู่มากน้อยแค่ไหน และอาจสะท้อนให้เห็นถึงระบบสวัสดิการและการบริหารจัดการประเทศของรัฐบาลได้ ซึ่งถ้าหากคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ มีรายได้ที่เพียงพอต่อการใช้จ่ายและการใช้ชีวิต นอกจากจะน่าอยู่แล้ว ยังจะทำให้คุณและคนในสังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขอีกด้วย
10 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024 มีที่ไหนบ้าง?
“Quality of Life” หรือการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญอย่างมากในช่วง 1-2 ปีมานี้ เพราะการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เปรียบเสมือนการได้ใช้ชีวิตบนพื้นฐานแห่งความสุข ทั้งเรื่องการทำงาน สวัสดิการที่ได้รับ ใครที่กำลังอยากย้ายที่อยู่ หรือกำลังมองหาประเทศที่อยากไปลองใช้ชีวิต มาดูกันดีกว่าว่า 10 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024 จากการจัดอันดับของนิตยสาร CEOWORLD จะมีประเทศไหนบ้าง
1. สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
สวิตเซอร์แลนด์ : ประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในปี 2024 ที่ได้คะแนนจากการวัดความก้าวหน้าของมนุษย์หรือ Human Progress Index (HPI) ไปถึง 97.90% ซึ่งเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ความก้าวหน้าในอาชีพ ความคล่องตัวทางเศรษฐกิจสูง ความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพ อัตราการว่างงานต่ำ และเป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลก มีธรรมชาติสวยๆ เพียบ จึงไม่แปลกที่สวิตเซอร์แลนด์จะคว้าอันดับ 1 ได้ในปีนี้
2. นอร์เวย์ (Norway)
นอร์เวย์ : อีกหนึ่งประเทศที่เรียกได้ว่าน่าอยู่ที่สุดไม่แพ้สวิตเซอร์แลนด์เลย ด้วยความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง มีความเท่าเทียมทางสังคม ความปลอดภัยและอัตราอาชญากรรมต่ำ สภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่ และมีความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและครอบครัว จึงทำให้นอร์เวย์กลายเป็นประเทศน่าอยู่ที่ได้คะแนน HPI สูงเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนน 97.87%
3. ไอซ์แลนด์ (Iceland)
ไอซ์แลนด์ : ในการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024 ประเทศไอซ์แลนด์ได้คะแนนสูงเป็นอันดับ 3 จาก 196 ประเทศ โดยมีคะแนน HPI อยู่ที่ 97.47% โดยจุดเด่นของประเทศนี้ ได้แก่ ความปลอดภัยในการใช้ชีวิตสูง มีอัตราอาชญากรรมต่ำ มีระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ เด็กๆ ได้รับการศึกษาที่ดี ความเท่าเทียมทางสังคมสูง และเป็นหนึ่งประเทศในทวีปยุโรปที่มีธรรมชาติที่สวยงาม
4. ฮ่องกง (Hong Kong)
ฮ่องกง : หนึ่งใน 2 ประเทศจากทวีปเอเชีย ที่มีการติดอันดับ 10 เมืองที่สวยที่สุดในโลกและน่าอยู่ที่สุดในโลกในปีนี้ เนื่องจากการมีระบบขนส่งสาธารณะยอดเยี่ยม ไปไหนมาไหนสะดวก โอกาสทางธุรกิจมากมาย ระบบสาธารณสุขมีประสิทธิภาพ รองรับการเดินทางที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะศาสนาอะไร ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยฮ่องกง มีคะแนน Human Progress Index อยู่ที่ 97.31%
5. สวีเดน (Sweden)
สวีเดน : เป็นประเทศที่มีการจัดการระบบสวัสดิการที่ดีมากๆ มีการจัดการและบริการได้อย่างลงตัว มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีก้าวหน้า ความเท่าเทียมทางสังคมสูง ไม่แบ่งแยกเพศที่สาม ถนนหนทาง พื้นที่สาธารณะมีความสะอาด เป็นมิตรกับธรรมชาติ ซึ่งมีคะแนน HPI ในการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024 หรือ World’s Best Countries to Live in for Quality of Life, 2024 อยู่ที่ 97.28%
6. เดนมาร์ก (Denmark)
เดนมาร์ก : ได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก มีสวัสดิการดูแลตั้งแต่เด็กไปจนถึงตอนโต มีระบบการศึกษาฟรีและมีคุณภาพ ในหลายๆ เมืองมีการใช้จักรยานแทนรถยนต์ อากาศสะอาดไม่มีมลพิษ ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ รัฐบาลมีการทำงานอย่างโปร่งใส จึงทำให้ในปีนี้เดนมาร์กรั้งอันดับ 6 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุด ด้วยคะแนน HPI สูงถึง 96.92%
7. เยอรมนี (Germany)
เยอรมนี : ในการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในปีนี้ ได้คะแนน HPI ไป 96.54% ซึ่งมีจุดเด่นที่การคมนาคมขนส่งที่ครบครัน เดินทางได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะไปที่ไหน มีสวัสดิการสังคมที่ดีและมีคุณภาพ รัฐบาลดูแลจริงจัง ทั้งเรื่องการเรียนฟรี ค่ารักษาพยาบาลฟรี มีเงินบำนาญให้ใช้สำหรับวัยเกษียณ คุ้มครองแรงงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
8. ไอร์แลนด์ (Ireland)
ไอร์แลนด์ : เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีการพัฒนาเมืองและสิ่งแวดล้อมให้ตรงตามมาตรฐาน Quality of Life อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นประเทศที่ปลอดภัยและเมืองส่วนใหญ่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย ผู้คนส่วนใหญ่รักในความสงบ และในการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในปี 2024 ไอร์แลนด์อยู่ที่อันดับ 8 ซึ่งได้คะแนน HPI อยู่ที่ 96.08%
9. สิงคโปร์ (Singapore)
สิงคโปร์ : ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ที่มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอยู่ตลอดเวลา มีบริการสาธารณสุขที่ดี มีความปลอดภัยในการชีวิต เปิดกว้างทางสังคม ยอมรับความหลากหลาย มีสิ่งแวดล้อมและพื้นที่สาธารณะที่ดี ตอบโจทย์คนเมืองและวัยทำงาน ซึ่งในการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก สิงคโปร์ได้คะแนน Human Progress Index (HPI) อยู่ที่ 95.90% ในปี 2024
10. ออสเตรเลีย (Australia)
ออสเตรเลีย : มีคะแนน HPI อยู่ที่ 95.78% รั้งอันดับ 10 ในปีนี้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง น่าอยู่ ผู้คนเป็นมิตร ใช้ชีวิตแบบ Slow Life มีชายหาดและธรรมชาติที่สวยงาม ระบบการศึกษามีคุณภาพ มีมหาวิทยาลัยติดอันดับ Top 100 ของโลกมากกว่า 7 แห่ง มีการยอมรับความหลากหลายทั้งเพศและศาสนา มาตรฐานการใช้ชีวิต ความคล่องตัวทางเศรษฐกิจสูง
สรุปประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก 2024
ในปี 2024 หลายๆ ประเทศทั่วโลกได้มีพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับคำว่า Quality of Life ซึ่งถ้าดูจากรายชื่อ 10 ประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก คุณจะเห็นได้เลยว่าประเทศเหล่านี้ผู้คนส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการศึกษาที่เข้าถึงได้ง่าย ได้รับความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต
ซึ่งถ้าใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ มีแพลนจะไปเรียนต่อหรือย้ายที่อยู่ หรือแม้แต่การไปเที่ยว ลองเลือกประเทศเหล่านี้ดู คุณจะเข้าใจเลยว่าการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นยังไง แต่ก่อนจะคิดว่าต้องเดินทางไปที่ไหน อย่าลืมทำประกันการเดินทางกันด้วยนะ เพราะสามารถช่วยคุ้มครองปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายได้ต่างๆ รวมไปถึงทรัพย์สินส่วนบุคคล เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู ได้อีกด้วย
ที่มา: CEOWORLD magazine