ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เลือกทำอย่างไรให้คุ้มค่า
ในประเทศไทยมีประกันรถยนต์ให้เลือกใช้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ แต่เมื่อลองค้นหาในเว็บไซต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถต่าง ๆ จะพบว่าคนส่วนมากแนะนำให้ใช้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หลายคนอาจเอะใจขึ้นมาว่ามีเหตุผลอะไรที่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถึงเป็นที่นิยมมากที่สุด เพื่อไขข้อสงสัยเหล่านี้มาดูกันเลยว่าประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เหมาะสมกับใครมากที่สุด ราคาเท่าไหร่ ซื้อประกันรถชั้น 2+ แบบผ่อนจ่ายที่ไหนได้บ้าง?
ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ทำไมใคร ๆ ก็แนะนำให้ซื้อ
(info alt text :ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง)
เหตุผลที่หลายคนเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือ ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและเบี้ยประกันที่ถูกลง สำหรับความคุ้มครองของประกันรถชั้น 2+ นั้นถูกถอดแบบจากประกันรถชั้น 1 มาเกือบหมด แต่ถูกตัดบางส่วนออกไป เลยทำให้เบี้ยประกันรถชั้น 2+ ราคาถูกลง เพราะเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ประกันรถชั้น 2+ ถูกแนะนำอยู่บ่อย ๆ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อประกันรถชั้น 2+ ออนไลน์ ประกันติดโล่ขออธิบายข้อมูลของประกันรถยนต์ชั้น 2+ พอสังเขป ดังนี้
ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?
ถ้ากำลังสงสัยว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคุ้มครองเกือบเทียบเท่าประกันรถชั้น 1 จริง ๆ เหรอ เพราะเบี้ยประกันรถชั้น 2+ นั้นราคาถูกมาก ไม่น่าจะได้ความคุ้มครองขนาดนั้น ขอตอบอีกครั้งว่า “จริง” ซึ่งความคุ้มครองของประกันรถยนต์ประเภท 2 พลัสที่คุณจะได้รับหลังจากซื้อประกันรถออนไลน์ไปแล้ว คือ
- ความเสียหายของรถยนต์ในกรณีที่เกิดรถชนกันแบบมีคู่กรณี
- ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น รถน้ำท่วม รถไฟไหม้
- ความเสียหายเนื่องจากเครื่องยนต์ระเบิดเลยทำให้รถไฟไหม้
- ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย
- ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกต่อความเสียหายต่อทรัพย์สิน
- การเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า และสายตาสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ค่าประกันตัวสำหรับผู้ขับขี่
ประกันรถชั้น 2+ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง?
ความคุ้มครองที่ถูกตัดออกไปคือ ความคุ้มครองตัวรถของผู้เอาประกัน หมายความว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เอาประกันขับรถไปชนรถคันอื่นแล้วมีคู่กรณีก็จะสามารถขอเคลมประกันรถยนต์ได้ แต่ถ้า ขับรถชนแบบไม่มีคู่กรณี ประกันรถชั้น 2+ จะไม่คุ้มครอง ซึ่งกรณีที่ขับรถชนแล้วไม่มีคู่กรณี เช่น
- ขับรถชนเสาไฟฟ้า
- ขับรถชนแบริเออร์
- ขับรถตกข้างทางเพราะถนนลื่น
- ขับรถชนฟุตบาทหรือรั้ว
- โดนชนแล้วหนี ตามจับคู่กรณีไม่ได้
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใครบ้าง?
คนที่ใช้รถใช้ถนนต้องมีประกันรถยนต์เอาไว้คุ้มครองเวลาเกิดอุบัติเหตุอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.รถยนต์ (ประกันรถยนต์ภาคบังคับ) ที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี หรือประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่เป็นความคุ้มครองเพิ่มเติมอย่างเช่นประกันรถยนต์ชั้น 2+ นี้ ซึ่งการจะเลือกทำประกันอย่างไรให้คุ้มค่า นอกจากทำความเข้าใจความคุ้มครองข้างต้นแล้ว มาดูกันว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใครบ้าง
1. เหมาะกับคนที่อยากจ่ายเบี้ยน้อย แต่ได้ความคุ้มครองจุใจ
ถ้ามีงบประมาณจำกัดในการซื้อประกันรถยนต์ แต่อยากได้ความคุ้มครองแบบจุใจ ประกันติดโล่ขอบอกว่าประกันรถชั้น 2+ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีจริง ๆ โดยประกันรถชั้น 2+ ราคาถูกลงถึง 50% จากประกันรถชั้น 1 เลยนะครับ เพราะประกันรถชั้น 2+ ถูกออกแบบมาไว้ใช้คุ้มครองในกรณีที่รถชนรถเท่านั้น ดังนั้น ถ้าขับรถไปชนคันอื่นแล้วมีคู่กรณี หรือคู่กรณีไม่ได้หนีจนต้องตาม เช็กป้ายทะเบียน ประกันชั้น 2+ ก็คุ้มครองครับ
2. เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ในการขับรถ
ถ้าคุณมีประสบการณ์ในการขับรถอย่างช่ำชองชนิดที่ว่าขับรถในซอยแคบ ๆ ก็ไม่เฉี่ยวชน หรือขับเข้าโค้งรถไม่ตกข้างทาง ประกันติดโล่คิดว่าประกันรถชั้น 2+ เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะคุณจัดหมวดหมู่ให้ตัวเองเป็นคนไม่มีประวัติ เคลมรถยนต์ จึงไม่มีเหตุผลที่จะจ่ายเบี้ยประกันรถแพง ๆ อย่างประกันชั้น 1 แต่เลือกใช้ประกันรถชั้น 2+ เพราะว่าถ้าเกิดพลาดขับรถชนขึ้นมาจริง ๆ ก็ยังใช้สิทธิ์เคลมรถคู่กรณีได้ ซึ่งในส่วนของรถตัวเองค่อยหาเงินมาซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อมีเงิน อย่างน้อยก็ยังแบ่งเบาค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง
3. รถยนต์มือสองส่วนใหญ่ ต่างเลือกใช้ประกันรถชั้น 2 พลัส
รถมือสองถือเป็นรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งอายุของรถมือสองก็จะอยู่ที่ราว ๆ 3 ปีเป็นต้นไป และโดยมากแล้วคนที่ขับรถมือสองก็จะเลือกประกันรถชั้น 2+ ให้ใช้คู่กัน เนื่องจากว่าเป็นประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับช่วงอายุของรถ แล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องดูแลอะไรมาก เนื่องจากใช้งานมาพอสมควรแล้ว แต่การซื้อประกันรถชั้น 2+ เอาไว้ก็เพื่อป้องกันถ้าวันหนึ่งเกิดขับรถไปชนคันอื่นแล้วเป็นฝ่ายผิด ก็ยังจะได้ใช้สิทธิ์ประกันรถชั้น 2+ คุ้มครองคู่กรณี ไม่ต้องไปหายืมเงินใครมาจ่ายค่าซ่อมให้คู่กรณีนั่นเอง
ประกันชั้น 2 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร ประกันติดโล่สรุปให้
สำหรับประกันชั้น 2 จะคุ้มครองความเสียหายของรถยนต์เหมือนกับประกันชั้น 2+ แทบทุกอย่าง ยกเว้น ประกันชั้น 2 เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะไม่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถของผู้ขับขี่หรือรถของผู้ทำประกัน แต่จะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถของคู่กรณีเท่านั้น พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ คุ้มครองรถคู่กรณีเท่านั้น
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ราคาถูก ซื้อที่ไหนดี ที่ผ่อนได้ด้วย?
อ่านถึงตรงนี้คงจะพอเห็นภาพกันแล้วว่า ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง และเหมาะกับใคร หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจแล้วว่า “ฉันนี่แหละ เหมาะจะซื้อประกันรถชั้น 2+ มากที่สุด” แต่ยังไม่รู้ว่าจะหาซื้อประกันชั้น 2+ ราคาถูกที่ไหนดีที่สามารถผ่อนได้ด้วย ประกันติดโล่ขอบอกว่าไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลยครับ เพราะประกันติดโล่มีประกันรถชั้น 2+ มาเสิร์ฟให้คุณถึงที่แล้ว พร้อมสรุปเงื่อนไขและสิทธิพิเศษมาแบบเข้าใจง่าย ดังนี้
- ประกันรถชั้น 2+ ประกันติดโล่ ราคาไม่เกิน 5,680 บาท (ราคาถูกมาก)
- ประกันชั้น 2+ ประกันติดโล่ ไม่ต้องมีบัตรเครดิตก็ผ่อนจ่าย 0% ได้ 6 เดือน (เดือนละไม่เกิน 1,000 บาท)
- ประกันรถชั้น 2+ ประกันติดโล่ คุ้มครองทั้งรถไฟไหม้ รถโดนขโมย รถชนแบบมีคู่กรณี
- ประกันรถชั้น 2 พลัส ประกันติดโล่ ให้สิทธิ์เคลมประกันได้ทันที ไม่ต้องมีระยะเวลารอคอย
สรุป ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง
ถ้ามีรถก็จำเป็นมากที่จะต้องมี ประกันรถยนต์ นอกจาก พ.ร.บ.รถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีแล้ว ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเองก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุมาแล้วต้องจ่ายค่าเสียหายหรือชดเชยให้กับคู่กรณีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจช่วยคุณได้จริง ๆ เมื่อคุณได้รู้แล้วว่าประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณ และการเลือกทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็อาจเพียงพอกับการใช้รถในแต่ละวันของคุณ ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงไปได้มาก